Zack Snyder’s Justice League (2021)

Zack Snyder’s Justice League (2021) เวอร์ชั่นนี้จะทำให้เราเห็นจุดแตกต่างออกไปจากภาพยนตร์ Justice League ภาพยนตร์ซูเปอร์ฮีโร่แนว ต่อสู้, แอ็กชัน กำกับการแสดงโดย Joss Whedon นักแสดงนำในเรื่องได้แก่ เบน แอฟเฟล็ก, กัล กาด็อท, เจสัน โมมาว, เรย์ ฟิชเชอร์, เอซรา มิลเลอร์, และ เฮนรี แควิลล์ เรื่องราวในหนังมีความยาวมากถึง 4 ชม. 2 นาที โดยแบ่งออกเป็นจำนวนทั้งหมด 6 ตอนด้วยกัน ซึ่งตัวหนังจะถ่ายทอดเรื่องราวที่มากกว่าหนัง Justice League เป็นการขยายเนื้อเรื่อง โดยเส้นเรื่องหลักจะเป็นการเล่าเรื่องราวของการต่อสู้ระหว่างทีมซูเปอร์ฮีโร่ ที่นำโดย Batman และ Wonder Woman เพื่อปกป้องโลกจากการคุกคามของ Steppenwolf และ Darkseid ซึ่งเป็นวายร้ายจากอวกาศ โดยเหตุการณ์นี้เกิดหลังจากการตายของ Superman ซึ่งเป็นฮีโร่หลักที่ผดุงความยุติธรรม ส่งผลให้เหล่าฮีโร่ทุกคนต้องรวมตัวกันเพื่อต่อสู้ศึกในครั้งนี้นั่นเอง นอกจากได้หัวเรือใหญ่อย่าง Batman และ Wonder Woman ทั้งสองได้ออกตามหาเหล่าฮีโร่ที่ซ่อนตัวอย่างทั่วโลก โดยมีฮีโร่ที่เข้าร่วมทีมได้แก่ Aquaman ฮีโร่แห่งอาณาจักร Atlantis เขามีความสามารถในการต่อสู้ทั้งบนบกและในน้ำ ด้วยความสามารถพิเศษของการเป็นลูกครึ่งชาวแอตแลนติสกับมนุษย์ Flash ชายผู้ขึ้นชื่อว่าวิ่งเร็วมากที่สุดในโลก จากการที่เขาใช้ความรู้ในการสร้างพลังงานไฟฟ้าแรงสูง ที่เป็นต้นกำเนิดของความสามารถพิเศษนี้ Cyborg มนุษย์ในร่างหุ่นยนต์ที่เกิดจากการวิจัย โดยพ่อของเขาที่ต้องการให้ลูกชายสุดที่รักกลับมามีชีวิตได้อีกครั้ง หลังจากประสบอุบัติเหตุร้ายแรง เรื่องราวการต่อสู้สุดมันส์นี้จะดำเนินต่อไปอย่างไร แล้วเราจะได้เห็นอะไรที่มากกว่าในหนัง Justice League บ้าง สามารถติดตามได้ที่หนังเต็มได้เลย
ความรู้สึกหลังจากรับชม ตัวเส้นเรื่องที่ไม่ได้แตกต่างอะไรมากมาย ทางด้านเนื้อหาที่เพิ่มมา จะเป็นการใส่ฉากบู๊เสียมากกว่า รวมถึงการเล่าเรื่องราวพื้นหลังของบางตัวละครเพิ่มเติม เหมือนหนังจะปูส่งไปภาคแยกของตัวละครอื่น ๆ ซะมากกว่า รวม ๆ แล้วเวอร์ชันนี้ก็ค่อนข้างตัดต่อได้สนุกกว่าหนังเต็มที่ได้ดูมา อาจด้วยเพราะว่าจัดอยู่ในหมวดเรท R เอาใจคอหนังที่ชอบแนวเลือดสาด จัดเต็มในการต่อสู้ บอกเลยปลื้มเวอร์ชันนี้แน่นอน โดยภาพรวมแล้วเราขอให้คะแนนหนังอยู่ที่ 8/10