Underworld 2 Evolution (2006) สงครามโค่นพันธุ์อสูร 2 อีโวลูชั่น

ภาพยนตร์แนวต่อสู้ / ไซไฟ / แอ็กชัน เรื่อง Underworld 2 Evolution (2006) สงครามโค่นพันธุ์อสูร 2 อีโวลูชั่น กำกับการแสดงโดย Len Wiseman นักแสดงนำ Kate Beckinsale รับบทเป็น Selene, Scott Speedman รับบทเป็น Michael Corvin, Tony Curran รับบทเป็น Marcus Corvinus, และ Derek Jacobi รับบทเป็น Alexander Corvinus เมื่อการต่อสู้ของสองเผ่าพันธุ์ยังไม่จบลง พวกเขายังคงต้องห้ำหั่นกันต่อไป โดยความหวังของฝั่งสันติก็ยังต้องการที่จะจบสงครามนี้อยู่

เรื่องราวเริ่มต้นที่ Selene และ Michael ทั้งสองตัดสินใจที่จะหนีจากการตามล่าของแวมไพร์และไลแคน พร้อมกับสงครามที่เหมือนว่าปะทุความรุนแรงเพิ่มมากยิ่งขึ้น โดยในตอนนี้ Marcus แวมไพร์ที่เก่าแก่มากที่สุดและยังมีพลังที่สุดได้ฟื้นคืนชืพอย่างสมบูรณ์แบบจากการที่เขาได้ดื่มเลือดของไลแคน โดย Marcus ก็ได้รับความทรงจำของร่างนั้นมาด้วย ทำให้เขาได้รู้ว่าตอนนี้ William พี่ชายของตัวเองได้ถูกคุมขังอยู่ที่ไหน แถมพี่ชายของเขายังได้ถูกเปลี่ยนให้เป็นไลแคนต้นแบบที่ไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ Marcus ที่รู้ดังนั้นเขาจึงโมโหเป็นอย่างมาก จากนั้นเขาได้รวมพลเพื่อที่จะเข้าโจมตีเหล่าไลแคนทันที ทางด้าน Selene และ Michael หลังจากที่ทั้งสองได้รับหลักฐานบางอย่างที่เกี่ยวข้องกับตระกูล Corvinus ซึ่งความลับนั้นก็คือ Alexander เป็นพ่อของ Marcus และ William แถมตัวของเขายังเป็นผู้ที่ก่อตั้งเผ่าแวมไพร์และไลแคนอีกด้วย ความลับนี้เป็นสิ่งที่ไม่เคยมีใครรู้มาก่อน ซึ่ง Marcus ที่รู้เรื่องราวนี้เขาจึงต้องการที่จะปลดปล่อยพลังของ William เพื่อให้สร้างหายนะให้แก่โลกและเหล่ามนุษย์ทุก ๆ คน เพื่อที่เผ่าพันธุ์แวมไพร์จะขึ้นมาเป็นผู้ปกครองแทน Alexander ที่ไม่ต้องการอย่างนั้นเขาจึงตัดสินใจให้เลือดแก่ Selene ทำให้เธอได้รับพลังพิเศษและความสามารถที่เพิ่มขึ้นนี้เองทำให้เธออาจสามารถต่อสู้กับ Marcus และ William เรื่องราวศึกในครั้งนี้จะเป็นอย่างไรต่อไป ท้ายที่สุดแล้วสงครามที่ยืดเยื้อกันมาอย่างยาวนานจะจบลงหรือไม่ ติดตามกันต่อในภาพยนตร์เต็มกันเลย

Underworld 2 Evolution (2006) ส่วนตัวคิดว่าตัวหนังค่อนข้างทำถึงมาก ๆ เลยในฉากการต่อสู้ในภาคนี้ เอฟเฟกต์ต่าง ๆ เรียกว่าสร้างสรรค์ได้แบบสมจริงสุด ๆ และยิ่งเพิ่มความน่าตื่นเต้นให้กับตัวหนังเอามาก ๆ เลย แถมยังวางตัวละครเชื่อมโยงกันออกมาได้ดี ในภาคนี้ค่อนข้างสมจริงและมีการปรับบทให้สนุกมากขึ้น เน้นฉากต่อสู้เยอะมากกว่าภาคที่แล้ว แต่ในส่วนของบทอาจยังไม่ธรรมชาติยังมีบางประโยคที่รู้สึกขัด ๆ อยู่บ้าง โดยภาพรวมเป็นหนังที่ยังคงคอนเซปต์ไซไฟไว้ได้ดีอยู่ไม่น้อยเลย เราจะขอให้คะแนนหนังเรื่องนี้อยู่ที่ 7/10