To Kill a Tiger (2024) เมื่อต้องฆ่าเสือ

To Kill a Tiger (2024) เมื่อต้องฆ่าเสือ สารคดีบอกเล่าเหตุการณ์สะเทือนขวัญของเด็กสาวชาวอินเดียในวัย 13 ปีที่ถูกข่มขืนโดยเหล่าชายฉกรรจ์และต้องต่อสู้เพื่อทวงความยุติธรรมกับพ่อชาวนา สารคดีเรื่องนี้ได้โปรดิวเซอร์อย่าง เดฟ พาเทล และ มินดี้ คาลิง เป็นฝีมือการกำกับของ นิชา ปาหุจา

เรื่องราวสารคดีที่เล่าถึงคดีความรุนแรงทางเพศของเด็กสาววัย 13 ปี โดยมีบทสัมภาษณ์ของพ่อผู้ใจสลาย เขาบอกเล่าเรื่องราวในอดีตระหว่างเขาและภรรยาที่อยากจะมีลูกสาวมาโดยตลอด จนในที่สุดความปรารถนาของเขาก็เป็นจริง เขาได้ลูกสาวคนแรกและรักเธอดั่งแก้วตาดวงใจ เขาและภรรยาเลี้ยงดูลูกสาวมาอย่างดี จนเธออายุได้ 13 ปี โดยปกติแล้วเขามักจะทำงานช่วงเช้าและกลับมาช่วงค่ำ ก่อนออกไปทำงานเขามักจะบอกลูกสาวของเขาเสมอว่าเธอสามารถออกไปเล่นได้จนถึงกี่โมง และต้องกลับเวลาไหน และในวันนั้นเองเขาไม่ได้ระวังมากพอ จนลืมบอกกับลูกสาวเหมือนที่บอกเป็นประจำ ซึ่งเขาคิดว่าจุดนั้นเองที่ทำให้เขานึกเสียใจอยู่เสมอว่าเขาทำพลาดไป จนเป็นเหตุการณ์คดีข่มขืนรุมโทรมเกิดขึ้น จากการกระทำอันแสนเลวร้ายได้สร้างความสะเทือนขวัญให้กับคนทั้งประเทศอินเดีย ในช่วงคืนที่ผ่านมา “เบโร” เด็กสาววัย 13 ปี ถูกข่มขืนรุมโทรม โดยเหตุการณ์ครั้งนี้เกิดขึ้นในขณะที่เด็กหญิงกำลังร่วมงานฉลองงานแต่งงานที่อยู่ใกล้บ้าน ผู้ต้องหา 3 รายถูกตำรวจจับกุม ส่วนเหยื่อกลับไปอยู่ที่บ้าน และมีการรายงานความรุนแรงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง จึงเป็นประเด็นถกเถืองถึงพื้นฐานจิตใจคนในประเทศอินเดียว่ามีอะไรผิดปกติหรือไม่ สารคดีเรื่องนี้เสมือนเป็นการตีแผ่สังคมและความคิดของคนในอินเดียได้เป็นอย่างดีเลย เพราะเหตุการณ์แบบนี้ไม่ได้เกิดขึ้นเพียงแค่ครั้งเดียว แต่กลับมียอดการเกิดเหตุการณ์แบบต่อเนื่อง เราจะได้เห็นการแก้ปัญหาว่าทางรัฐบาลอินเดียมองเรื่องนี้และต้องการแก้ปัญหาอย่างไรบ้าง เรื่องราวจะเป็นอย่างไรร่วมกันติดตามกันต่อในสารคดีฉบับเต็มกันได้เลย

หลังจากรับชมภาพยนตร์เรื่องนี้จบคะแนนที่ให้คือ 8/10 คะแนน เป็นสารคดีที่หดหู่ใจสุด ๆ และต้องปรบมือให้กับโปรดิวเซอร์และผู้กำกับ ที่หยิบยกเรื่องราวอีกมุมหนึ่งของคนอินเดียคดีที่สะเทือนขวัญนี้ เป็นอุทาหรณ์ให้กับพ่อแม่ และเด็ก ๆ เพราะทุกวันนี้ภัยอยู่ใกล้ตัวเราเสมอ ถึงแม้จะอยู่ในชุมชนเดียวกันคนร้ายก็คือคนร้าย ไม่เลือกเหยื่อ การค่อย ๆ เล่าเรื่องราวของสารคดี ทำให้เรารู้สึกได้ว่า ผู้กำกับค่อนข้างให้ความเคารพตัวเหยื่อมาก ๆ เพราะการนำเสนอสารคดีแบบนี้มักจะกระทบจิตใจทั้งเหยื่อและพ่อแม่เอง เหตุการณ์เหล่านั้นจะไม่มีวันหายไป รวมไปถึงการบอกเล่าเรื่องราวของคนเป็นพ่อเป็นแม่ ที่ต้องต่อสู้กับเรื่องนี้เพื่อทวงคืนความยุติธรรมเพื่อลูกสาวสุดที่รัก เรียกได้ว่าเป็นการนำเสนอที่ให้อะไรกับสังคมมาก ๆ อยากให้ทุกคนลองเข้าไปรับชมเรื่องราวสารคดีนี้ รับรองเลยว่าจะได้แง่คิดหลาย ๆ มุม ความเข้มแข็งของเด็ก 13 ที่กล้าเผชิญกับความจริง เพราะฉะนั้นถ้าใครที่เจอเหตุการณ์นี้ ไม่ควรอยู่นิ่ง เหยื่อไม่ผิด คนร้ายต่างหากที่ควรอาย