The Rite (2011) คนไล่ผี

The Rite (2011) คนไล่ผี ภาพยนตร์สยองขวัญเหนือธรรมชาติปี 2011 เป็นฝีมือการกำกับของ มิคาเอล ฮาฟสตรอม เรื่องราวเกี่ยวกับการติดตามชีวิตของ ไมเคิล โคแว็ค ชายหนุ่มที่ไม่เชื่อในเรื่องของภูตผี แต่วันหนึ่งเขาต้องที่ถูกส่งตัวเข้าไปศึกษาด้านการไล่ผีที่วาติกัน และกลายเป็นนักบวช นำแสดงโดย โคลิน โอดอนอฮิว, แอนโธนี่ ฮอปกินส์, อลิซ บราก้า, และ โทบี้ โจนส์
หนังเล่าถึงเรื่องราวของไมเคิล โคแว็ค ที่มีพ่อเป็นสัปเหร่อและช่างแต่งหน้าศพ พ่อของไมเคิลนั้นได้ตั้งความหวังให้ไมเคิลเดินตามรอยของเขา หรือไม่ก็เป็นนักบวช แต่ไมเคิลไม่เคยเชื่อในเรื่องของสิ่งที่มองไม่เห็น และไม่สามารถพิสูจน์ได้ด้วยวิทยาศาสตร์ จึงไม่คิดที่จะทำในอาชีพที่พ่อหวัง แต่เมื่อถึงเวลาที่เรียนจบ ไมเคิลกลับเลือกที่จะเรียนต่อในโรงเรียนสอนศาสนา ด้วยเหตุผลที่ว่า การไปเรียนที่โรงเรียนสอนศาสนานั้น จะได้อยู่ห่างจากพ่อถึง 4 ปี ในเวลาต่อมาไมเคิลที่ได้ทุนเรียนในหลักสูตรบาทหลวงและกำลังใกล้จะเรียนจบ ไมเคิลกลับยื่นใบลาออกจากการเป็นนักศึกษาทั้งที่หลาย ๆ วิชาไมเคิลสามารถทำได้ดี ยกเว้นวิชาเทวะวิทยาที่เขาทำได้ไม่ดี ซึ่งเหตุผลหนึ่งที่ทำให้ผลออกมาไม่ดีนั้นก็เพราะว่า ไมเคิลยังขาดความเชื่อและความศรัทธา และในคืนหนึ่งไมเคิลได้อยู่ในเหตุการณ์ที่มีผู้หญิงถูกรถยนต์ชนจักรยาน และไมเคิลวิ่งเข้าไปช่วย แต่หญิงผู้บาดเจ็บรู้ตัวว่าจะไม่รอด เมื่อเห็นไมเคิลสวมชุดบาทหลวง จึงขอให้ไมเคิลช่วยสวดมนต์ส่งวิญญาณให้ หลังจากคืนนั้นหลวงพ่อแมททิวทราบเรื่องก็ไม่อนุมัติการลาออกของไมเคิล เพราะน้อยคนที่จะมีสติและทำได้อย่างไมเคิล รวมถึงถ้าไมเคิลลาออกตอนนี้จะต้องชดใช้เงินก้อนใหญ่ที่เป็นทุนคืนทันที แถมยังจะส่งให้ไมเคิลไปเข้าโครงการไล่ผี และวิญญาณร้ายที่วาติกันเป็นเวลา 2 เดือน เมื่อเขาถูกส่งตัวไปฝึกงานกับคุณพ่อลูคัส ผู้มีวิธีการนอกกรอบ หลายครั้งที่หลวงพ่อลูคัสพาไมเคิลไปร่วมพิธีกรรมไล่ผี ซึ่งก็ทำให้เขาเริ่มเชื่อมากขึ้นแม้จะยังไม่สนิทใจนัก หลายครั้งที่ไมเคิลมองว่าคนที่ถูกผีเข้าสิงนั้นเป็นผู้ป่วยทางจิต จนวันหนึ่งหลวงพ่อลูคัสโดนวิญญาณร้ายเข้าสิง ไมเคิลจำเป็นต้องช่วยไล่ผีให้หลวงพ่อ ไมเคิลจะสามารถช่วยหลวงพ่อลูคัสได้หรือไม่นั้นคุณต้องติดตามชม
หลังจากที่ได้ดูหนังเรื่องนี้ตั้งแต่ต้นจนจบพอจะสรุปได้ว่า เป็นหนังที่สนุก แม้ว่าจะเป็นหนังที่มีการดำเนินเรื่องอิงศาสนามากไปหน่อย และมีการเล่าเรื่องที่ค่อนข้างช้า แต่โดยรวมในส่วนของเนื้อถือว่าทำได้ดีระดับหนึ่ง ส่วนเรื่องของงานภาพต้องบอกว่าทำออกมาค่อนข้างไปในทิศทางเดียวกับหนังผีทั่วไป คือเน้นภาพที่ค่อนข้างมืดมัว จึงอาจทำให้ไม่รู้สึกแตกต่างจากเรื่องอื่นหนัก อีกทั้งเอฟเฟ็กก็ไม่ได้อลังการ บอกได้เลยว่าที่เห็นแบบชัดเจนเลยก็ตอนไล่ผีหลวงพ่อลูคัสเท่านั้น แต่ถ้าไม่ได้คิดอะไรมากนัก ก็ถือว่าเป็นหนังอีกหนึ่งเรื่องที่น่าดู สำหรับคอหนังผีเหนือธรรมชาติ เราขอให้คะแนนภาพรวมที่ 5.0 / 10