The Pale Blue Eye (2023) เดอะ เพล บลู อาย

The Pale Blue Eye (2023) เดอะ เพล บลู อาย ภาพยนตร์แนว อาชญากรรม / ลึกลับ / ดราม่า กำกับการแสดงโดย สก็อตต์ คูเปอร์ นักแสดงนำ คริสเตียน เบล รับบทเป็น ออกัสตัส แลนด์ดอร์, แฮร์รี่ เมลลิง รับบทเป็น เอ็ดการ์ แอลลัน โพ, จิลเลียน แอนเดอร์สัน รับบทเป็น เลดี้ เจสซี่

ในปี ค.ศ. 1830 แลนด์ดอร์ นักสืบวัยเกษียณที่ต้องมาสืบคดีฆาตกรรมที่โรงเรียนทหารเวสต์พอยต์ เนื่องจากมีนักเรียนที่ชื่อ ฟรายด์ ได้ถูกแขวนคออยู่บนต้นไม้ ซึ่งดูเหมือนว่าความสยองจากเหตุการณ์นี้ยังไม่หมดเท่านี้ เพราะศพได้ถูกควักหัวใจออกไปด้วยนั้นเอง ทางด้านหมอได้แจ้งว่าศพนี้น่าจะถูกควักหัวใจหลังจากฆาตกรรมเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยสันนิษฐานว่าผู้ที่ทำน่าจะเป็นผู้ชาย เนื่องจากแรงกดจากมีดน้ำหนักไม่น่าจะเป็นผู้หญิงที่ทำเรื่องเช่นนี้ได้นั้นเอง ขณะที่ผู้บัญชาการได้มาส่งนักสืบ เขาได้แจ้งกับแลนด์ดอร์ให้ช่วยเร่งทำคดีนี้ ไม่อย่างนั้นหากทางวุฒิสมาชิกรู้ โรงเรียนแห่งนี้อาจถูกสั่งปิดได้นั้นเอง ซึ่งแลนด์ดอร์ก็รับปากว่าจะพยายามอย่างสุดความสามารถ แลนด์ดอร์ได้เดินทางมายังที่เกิดเหตุพร้อมร้อยเอกและผู้ที่พบศพครั้งแรก โดยที่เขาได้แจ้งว่า เขาได้ยินเสียงบางอย่างจึงเดินมาดูก่อนที่จะพบร่างของฟรายด์ห้อยอยู่บนต้นไม้ หลังจากนั้นแลนด์ดอร์พาร้อยเวรมาที่ศพก่อนจะชี้ให้เห็นอย่างชัด ๆ เพื่อสร้างความแน่ใจว่าร่องรอยของฟรายด์นั้นไม่ได้เป็นการแขวนคอตัวเองตายแน่นอน ซึ่งเขาน่าจะถูกฆาตกรรมก่อนแล้วนั้นเอง แลนด์ดอร์เริ่มต้นที่จะสอบถามเหล่านักเรียนนายร้อยทีละคน เพื่อหาจุดสังเกตต่าง ๆ ทำให้เขาได้มารู้จักกับ เอ็ดการ์ แอลลัน โพ นักเรียนนายร้อยผู้มีพรสวรรค์ด้านวรรณกรรม ทั้งคู่ต้องร่วมมือกันคลี่คลายปริศนาการฆาตกรรมที่เต็มไปด้วยความลับและอันตรายต่าง ๆ ที่รายล้อมพวกเขา แลนเดอร์จะสามารถค้นความจริงได้หรือไม่ ร่วมเอาใจช่วยพร้อมหาความจริงไปพร้อมกันได้ในหนังเต็มได้เลย

ถือว่าเป็นหนังสืบสวนที่ทำออกมาค่อนข้างน่าเบื่อ เนื่องจากตัวหนังจะเน้นในฉากพูดคุยเพื่อให้ตัวเอกออกตามหาความจริง ไขปมที่ละนิดๆ เพื่อไปสู่ปมใหญ่ ใครที่ไม่ชอบแนวๆ นี้ อาจดูไม่จบเรื่องแน่นอน ในส่วนของงานภาพ สี หนังจะเน้นในโทนหม่นสีครึ้ม ๆ สร้างบรรยากาศให้ดูลึกลับมากกว่าเดิม แถมยังทำให้เราต้องข้อสงสัยในตัวละครแต่ละตัวเหมือนกันว่าใครจะเป็นคนร้ายในคดีนี้กันแน่ ส่วนตัวคิดว่าความสนุกจะเริ่มมาอยู่ในช่วงท้าย ๆ เรื่อง มากกว่า ทางด้านของการแสดงถือว่าทำออกมาได้ดี ตัวละครหลักค่อนข้างถ่ายทอดและแสดงให้เราเชื่อว่าเป็นนักสืบจริง ๆ รวม ๆ แล้ว ขอให้คะแนนหนังอยู่ที่ 7.5/10