The Equalizer 3 (2023) มัจจุราชไร้เงา 3

The Equalizer 3 (2023) มัจจุราชไร้เงา 3 เป็นภาพยนตร์บู๊แอคชั่นระทึกขวัญ แนวศาลเตี้ย กำกับโดย อองตวน ฟูกัว เป็นภาคต่อของ The Equalizer 2 ภาคที่สาม ซึ่งเป็นภาคสุดท้ายของไตรภาค The Equalizer เรื่องราวมาจากซีรีส์ในชื่อเดียวกัน นำแสดงโดย เดนเซล วอชิงตัน เขากลับมารับบทเป็น โรเบิร์ต แมคคอล ในฐานะเจ้าหน้าที่นาวิกโยธินสหรัฐฯ เจ้าหน้าที่ DIA ที่เกษียณแล้ว, ดาโกต้า แฟนนิ่ง รับบทเป็น เอ็มม่า คอลลินส์, ยูเจนิโอ มาสแตรนด์เรีย รับบทเป็น จิโอ โบนุชชี่, เดวิด เดนแมน รับบทเป็น แฟรงก์ คอนรอย, ไกอา สโคเดลลาโร รับบทเป็น เอมินา, และ เรโม จิโรน รับบทเป็น เอ็นโซ อาริซิโอ

เรื่องราวเริ่มต้นที่โรงกลั่นเหล้าองุ่นในซิซิลี โรเบิร์ต แมคคอล ได้ทำการสังหาร ลอเรนโซ วิตาเล เจ้าหน้าที่อาชญากรรมซึ่งเป็นลูกน้องของเขา เพื่อนำกุญแจห้องนิรภัยของโรงกลั่นเหล้าองุ่น และนำเงินที่ถูกขโมยไปในการปล้นทางไซเบอร์ออกมา ขณะที่ออกจากโรงกลั่นเหล้าองุ่นโรเบิร์ตถูกหลานชายวัยรุ่นของไวเทลยิงที่ด้านหลัง โรเบิร์ตคิดฆ่าตัวตายเนื่องจากอาการบาดเจ็บที่รุนแรงมากขึ้นจนเกินจะทนไหว แต่เขาพบว่าปืนนั้นไม่มีกระสุนเลย จึงกลั้นใจขึ้นเรือเฟอร์รี่เพื่อกลับไปยังแผ่นดินใหญ่ ในขณะที่ขับรถบนชายฝั่งอามาลฟี โรเบิร์ตหมดสติไปเนื่องจากอาการบาดเจ็บ หลังจากนั้นเขาถูกพบและถูกช่วยเหลือโดย จิโอ โบนุชชี่ คาราบิเนียร์ คนในท้องถิ่น

โบนุชชี่ พาเขาไปยังเมืองชายฝั่งทะเลที่อยู่ห่างไกลของอิตาลี ชื่ออัลตามอนเต เขาเข้ารับการรักษาอย่างเร่งด่วนโดยแพทย์ที่เป็นคนในเมืองเล็ก ๆ เอ็นโซ อาริซิโอ หลังจากที่เขาฟื้นตัวมาได้ โรเบิร์ต ได้อยู่รักษาตัว จนเริ่มคุ้นเคยกับคนในท้องถิ่น ทำให้มีความรู้สึกชื่นชอบเมืองเล็ก ๆ ผู้คนภายในเมืองมากขึ้น หลังจากที่เขากลับมาแข็งแรง โรเบิร์ตได้โทรหา เอ็มม่า คอลลินส์ เจ้าหน้าที่ซีไอเอ โดยไม่เปิดเผยตัวตนเพื่อแจ้งเรื่องเกี่ยวกับโรงบ่มไวน์ที่ทำการค้ายาผิดกฎหมาย ซึ่งปลอมตัวในการธุรกรรมทางธุรกิจตามปกติในซิซิลี คอลลินส์และเจ้าหน้าที่ซีไอเอคนอื่น ๆ ได้เดินทางมาถึงโรงกลั่นเหล้าองุ่น เขาพบเงินสดหลายล้านพร้อมกับถุงยาเฟเอทิลลีนซ่อนอยู่ในห้องเก็บของ ซึ่งเป็นการยืนยันข้อสงสัยของโรเบิร์ตว่าถูกต้องทุกประการ เรื่องราวจะดำเนินไปต่ออย่างไรบ้าง ชีวิตวัยเกษียณที่เรียบง่ายของโรเบิร์ตจะเป็นไปตามที่เขาคาดหวังหรือไม่ รับชมต่อในหนังตัวเต็มกันได้เลย

หลังจากรับชมภาพยนตร์เรื่องนี้จบคะแนนที่ให้คือ 7/10 คะแนน ในภาคนี้เรียกได้ว่าเกินความคาดหมายมาก ๆ ตอนแรกที่ดูแทบไม่ได้คาดหวังอะไรเลย แต่พอดูจบก็ถือว่ามันส์สะใจมาก ๆ ฉากแอคชั่น ฉากบู๊ระห่ำ ผสมผสานกับกลิ่นอายของภาพยนตร์แนวล้างแค้น เรื่องนี้เป็นตัวอย่างที่ดีมาก ๆ ของศิลปะภาพยนตร์แนวแอคชั่น การผสมผสานระหว่างความเถื่อนดิบ และการต่อสู้ที่เหนือชั้น บวกกับเสน่ห์ของฉากต่าง ๆ ในเรื่อง พร้อมกับกลิ่นอายของสไตล์อิตาลี เรียกได้ว่าเป็นกระแสแห่งความบันเทิง ความแอคชั่นที่ถึงพริกถึงขิง ความสนุก ความตื่นเต้นแบบจัดเต็ม ในส่วนของเนื้อเรื่องเต็มไปด้วยเรื่องราวของมิตรภาพดี ๆ มากมาย บทสรุปของตัวละคร การแสดงไร้ที่ติ ทุกคนแสดงออกมาได้ดีมาก โดยเฉพาะ เดนเซล วอชิงตัน การแสดงของเขาเป็นธรรมชาติ ด้วยการถ่ายทอดตัวละคร ออกมาในรูปแบบของเขาด้วยเสน่ห์ คือการพูดน้อยแต่ต่อยหนัก สรุปโดยรวมเลยคือ ภาคนี้คือการปิดไตรภาคที่สวยงามมาก ๆ ดูไปแบบเพลิน ๆ มีฉากแอคชั่นต่าง ๆ สะใจทุกฉาก สำหรับใครที่เป็นแฟนคลับเรื่องนี้ ต้องห้ามพลาดเลยทีเดียว เป็นภาคจบที่สมบูรณ์แบบมาก ๆ