The Electric State (2025) ท่องแดนจักรกล

The Electric State (2025) ท่องแดนจักรกล ภาพยนตร์แนวไซไฟ ผจญภัย ดรามา กำกับโดย Anthony Russo และ Joe Russo สองพี่น้องผู้สร้าง Avengers: Endgame และ The Gray Man เนื้อหาหนังดัดแปลงจากนวนิยายของ Simon Stålenhag โดยมี Christopher Markus และ Stephen McFeely เป็นผู้เขียนบท ภาพยนตร์นี้นำแสดงโดย Millie Bobby Brown, Chris Pratt, Ke Huy Quan, Woody Norman, และ Giancarlo Esposito หนังเล่าเรื่องในโลกอนาคตที่สงครามระหว่างมนุษย์และหุ่นยนต์ได้เปลี่ยนแปลงทุกสิ่ง ทำให้ Michelle Greene ต้องออกเดินทางไปยังดินแดนจักรกลพร้อมกับหุ่นยนต์ที่มีความทรงจำของน้องชายเธอ เพื่อตามหาความจริงเกี่ยวกับอดีตที่อาจซ่อนความหวังในการพบกับครอบครัวอีกครั้ง

เรื่องราวเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้ที่โลกมนุษย์เคยทำสงครามกับหุ่นยนต์ปัญญาประดิษฐ์ หลังจากมนุษย์เป็นฝ่ายชนะ พวกหุ่นยนต์ถูกขับไล่และกักกันไว้ใน “ดินแดนจักรกล” ซึ่งไม่มีมนุษย์หน้าไหนกล้าย่างกรายเข้าไป Michelle Greene เด็กสาวที่สูญเสียครอบครัวจากอุบัติเหตุ ได้พบกับหุ่นยนต์ปริศนาที่อ้างว่ามีความทรงจำของ Chris น้องชายที่เธอคิดว่าตายไปแล้ว หุ่นยนต์แนะนำให้เธอตามหา Dr. Clark Amherst นักวิทยาศาสตร์ที่อาจเป็นกุญแจไขปริศนาเกี่ยวกับชะตากรรมของ Chris เพื่อทำภารกิจนี้ Michelle จึงขอความช่วยเหลือจาก John Keats นักลักลอบขนของเถื่อนให้พาเธอและหุ่นยนต์เดินทางสู่ดินแดนจักรกล ที่นั่นเธอได้ค้นพบความจริงอันน่าตกตะลึงเกี่ยวกับชะตากรรมของน้องชาย และความลับของสงครามมนุษย์กับหุ่นยนต์ที่ไม่มีใครเคยรู้มาก่อน ในขณะเดียวกัน พวกเขาต้องเผชิญหน้ากับหุ่นยนต์ที่เหลือรอดจากสงคราม ซึ่งบางตัวอาจเป็นมิตร แต่บางตัวก็มองว่ามนุษย์เป็นภัยคุกคาม และในท้ายที่สุด Michelle ต้องตัดสินใจครั้งสำคัญว่าจะยึดติดกับอดีต หรือเปิดรับความจริงที่อาจเปลี่ยนโลกใบนี้ไปตลอดกาล

นี่คือภาพยนตร์ไซไฟที่มีงานภาพเป็นลักษณ์ที่โดดเด่นและแตกต่างจากหนังสงครามหุ่นยนต์เรื่องอื่น ๆ แทนที่จะเน้นฉากแอ็กชันบ้าระห่ำ หนังกลับมีความเป็นดรามา มีสตอรี่ที่พาเราเดินทางสู่โลกหลังสงคราม งานสร้างของหนังโดดเด่นอย่างมากด้วยการออกแบบโลกอนาคต ทำให้หนังมีบรรยากาศที่ลึกลับและแปลกใหม่ งานซีจีและงานวิชวลเอฟเฟกต์ถูกใช้เพื่อเสริมบรรยากาศมากกว่าการสร้างฉากต่อสู้ ด้านการแสดง Millie Bobby Brown ถ่ายทอดบทบาท Michelle ได้อย่างยอดเยี่ยม เธอทำให้คนดูเชื่อในความเจ็บปวดและความหวังของตัวละคร ขณะที่ Chris Pratt มอบการแสดงที่เป็นทั้งฮีโร่และคนหมดอาลัยตายอยากได้อย่างสมจริง ส่วน Ke Huy Quan แม้จะมีบทไม่มาก แต่ก็เป็นตัวละครที่ช่วยขับเคลื่อนเรื่องราว ด้านมุมกล้องและการจัดแสงช่วยสร้างความรู้สึกเหงาและเวิ้งว้างของโลกหลังสงครามได้ดีมาก โดยรวมแล้วถือเป็นหนังไซไฟที่ควรค่าแก่การรับชมอีกเรื่องหนึ่ง เราให้คะแนนหนังที่ 9/10 คะแนน