The Antisocial Network: Memes to Mayhem (2024) มีมปั่นความวุ่นวาย

ภาพยนตร์แนวสารคดี เรื่อง The Antisocial Network: Memes to Mayhem (2024) มีมปั่นความวุ่นวาย เข้าฉากครั้งแรกในปี 2024 กำกับการแสดงโดย Giorgio Angelini และ Arthur Jone สารคดีที่จะคนดูเข้ามาทำความรู้จักกับเว็บไซต์ที่เปรียบเสมือนศูนย์รวบรวมความวุ่นวาย ที่ไม่ว่าใครก็สามารถเข้ามาพูดคุยกันอย่างไร้กฏเกณฑ์ เพราะที่แห่งนี้ผู้ใช้งานไม่ต้องระบุตัวตน จนทำให้เว็บไซต์นี้ได้รับความนิยมและเป็นจุดเริ่มต้นของสิ่งต่าง ๆ ที่อยู่ในโลกออนไลน์อยู่บ่อยครั้ง
เรื่องราวเริ่มต้นที่ เสียงพากย์กำลังบรรยายเรื่องราวการใช้สื่อออนไลน์ในยุคก่อน ๆ ซึ่งทุกคนมักจะออกมาแบ่งปันเรื่องราวต่าง ๆ สร้างมีมตลก ๆ ให้เกิดกลายเป็นไวรัลมากยิ่งขึ้น แต่แล้ววันหนึ่งสถานที่แห่งนี้กลับได้เปลี่ยนแปลงไป โฟร์แชนดอทโออาร์จี ชุมชนที่ไม่ว่าใครก็สามารถเข้ามาโพสต์ข้อความต่าง ๆ พูดคุยกันได้ โดยเว็บไซต์นี้มีความพิเศษคือ การเข้าใช้งานที่ไม่ระบุตัวตน ไม่ว่าใครก็สามารถเข้ามาพูดคุยกันได้อย่างอิสระ ทำให้มักจะมีสื่อแนวต่าง ๆ ถูกกระจายมากยิ่งขึ้นผ่านทางช่องทางนี้นั้นเอง รวมถึงข้อมูลบางอย่าง ทฤษฎีต่าง ๆ อย่างเช่น ทฤษฎีสมคบคิด ที่ทำให้หลาย ๆ คน เชื่อกันมากมาย จนเกิดเป็นประเด็นที่ถูกพูดถึงกันอยู่ในหลาย ๆ ครั้งนั้นเอง ทำให้ที่นี้เปรียบเสมือนช่องทางที่ให้ผู้คนที่มีความคิดเห็นแตกต่างกัน เข้ามาถกเถียงกันได้อย่างอิสระ แต่เหมือนว่าหลาย ๆ ครั้ง ข้อมูลเหล่านี้ก็ไม่ใช่ความจริง แต่ด้วยความต้องการของคนบางกลุ่มที่อยากสร้างชุดความเชื่อผิด ๆ ทำให้มีหลาย ๆ ทฤษฎีที่เป็นไปไม่ได้ ก็มีคนเข้าใจว่ามันคือ ความจริงนั้นเอง ทำให้หลาย ๆ คน มองว่าบรรยากาศภายในเว็บนี้ เต็มไปด้วยข้อมูลที่ถูกบิดเบือนจนไม่มีความน่าเชื่อถือใด ๆ เลย แถมบางแนวคิดกลายเป็นจุดเริ่มต้นของความวุ่นวายที่ส่งผลในชีวิตจริงด้วย เรื่องราวต่อจากนี้จะเป็นอย่างไรต่อ ในสารคดีเรื่องนี้จะถ่ายทอดทำให้เรามีความเข้าใจในข้อเท็จจริงใดบ้าง ร่วมกันติดตามและค้นหาความจริงไปพร้อม ๆ กัน ในสารคดีตัวเต็มกันได้เลย
ภาพยนตร์แนวสารคดีที่ค่อนข้างตีแผ่ความจริงในยุคสมัยใหม่ได้เป็นอย่างดี ด้วยความที่เราคุ้นเคยกับแนวคิดประหลาดจนทำให้เกิดการประท้วงหรือสร้างความวุ่นวายกันมาพอสมควรแล้ว แน่นอนว่าสารคดีเรื่องนี้จะตีแผ่ข้อเท็จจริงถึงความเชื่อ สาเหตุ และปัจจัยที่ที่ทำให้ผู้คนมักจะเชื่อหรือสร้างข้อมูลเท็จขึ้นมา เป็นภาพยนตร์ที่สื่อสารออกมาได้ดีเลยล่ะ ไม่ได้ยืดเยื้อ แถมยังมีการนำเสนอที่ไม่เชิงสารคดีจนเกินไป ใส่ซาวด์ต่าง ๆ ภาพกราฟิกที่รับชมง่าย ถือว่าเป็นสารคดีที่สนุกและอยากให้ใครหลาย ๆ คน ได้ติดตาม โดยรวมแล้วเราจะให้คะแนนสารคดีนี้อยู่ที่ 7.5/10 ใครก็เบื่อ ๆ ก็สามารถติดตามกันได้