Talk to Me (2023) จับ มือ ผี

Talk to Me (2023) จับ มือ ผี เป็นภาพยนตร์สยองขวัญเหนือธรรมชาติ ของออสเตรเลีย กำกับโดย แดนนี่ และ ไมเคิล ฟิลิปเปา ผ่านการแสดงของ Sophie Wilde ในบท Mia, Alexandra Jensen ในบท Jade, Joe Bird ในบท Riley, Otis Dhanji ในบท Daniel, Miranda Otto ในบท Sue, Zoe Terakes ในบท Hayley, Chris Alosio ในบท Joss, Marcus Johnson ในบท Max, Alexandria Steffensen ในบท Rhea 

เรื่องราวโฟกัสที่กลุ่มวัยรุ่นที่ค้นพบมือที่ถูกตัด โดยความพิเศษของมือนี้ คือ ใครที่จับจะสามารถสื่อสารกับวิญญาณได้ หนังจะทำให้เรารู้จักกับ มีอา หญิงสาววัย 17 ปี ที่กำลังต่อสู้กับเหตุการณ์ในอดีตของเธอ จากเหตุการณ์ที่แม่ของเธอได้ฆ่าตัวตายไป โดยมีอาและกลุ่มเพื่อนสนิทได้พากันมาปาร์ตี้แห่งหนึ่ง ในปาร์ตี้นี้จะทำให้เธอได้พบกับพิธีกรรมจับมือของศพ เหล่าเพื่อน ๆ ภายในงานใช้มือนี้ในการเชื่อมต่อเรียกวิญญาณเพื่อมาพูดคุย โดยมีเงื่อนไขว่า แต่ละคนจะสามารถถูกสิงในเวลาเพียง 90 วินาทีเท่านั้น ไม่เช่นนั้นวิญญาณเหล่านี้อาจเข้ามาสิงสู่อยู่ในร่างของคน ๆ นั้นไปตลอดกาลก็ได้ ในช่วงแรกบรรยากาศโดยรอบจะเต็มไปด้วยวัยรุ่นที่มีความสนุก กำลังตื่นเต้นกับเหตุการณ์ตรงหน้าของเพื่อน ๆ ที่ทำการเรียกวิญญาณให้สิงร่างของตัวเอง จนกระทั่งมาถึงตาของมีอา วิญญาณที่เข้าสิงเธอได้เริ่มพูดจาแปลก ๆ พร้อมทั้งให้ความสนใจกับเด็กหนุ่มผู้ซึ่งเป็นน้องชายของเพื่อนสนิทมีอา ก่อนที่เจ้าของมือเริ่มรู้สึกถึงความผิดปกติ เนื่องจากใกล้ครบเวลา 90 วินาทีตามกำหนด แต่ทางด้านวิญญาณกลับไม่ยอมปล่อยมือออก อีกทั้งตะโกนด้วยเสียงอันดังว่า “หนีไป หนีไป หนีไป” ทำให้บรรยากาศโดยรอบเริ่มตึงเครียดขึ้นมาทันที และแล้วเหตุการณ์ก็ได้หยุดลงเมื่อเหล่าเพื่อน ๆ ต่างพากันช่วยดึงมือให้หลุดออกจากมือของมีอาที่กำลังจับอยู่ เมื่อเธอตื่นขึ้นกลับจำเหตุการณ์อะไรไม่ได้ทั้งนั้น แต่หากนี้ไม่เพียงแค่เป็นจุดจบ แต่กลับกลายเป็นจุดเริ่มต้น เมื่อมีอาเริ่มถูกรังควาน พร้อมเห็นภาพหลอนเป็นภาพของแม่เธอหลังจากที่ทำพิธีกรรมดังกล่าว อีกทั้งยังเริ่มสร้างผลกระทบต่อเธอและคนรอบข้างอย่างชัดเจน เรื่องราวจะดำเนินการอย่างไรต่อ มีอาและเพื่อน ๆ จะพบกับความพิศวงอะไรบ้าง ติดตามกันต่อในหนังเต็มได้เลย 

พิธีกรรมภายในหนังจะเหมือนกับพิธีเล่นผีถ้วยแก้วแบบที่เราอาจคุ้นเคยกันมาก่อน หนังจะทำให้เรารู้สึกลุ้นไปตาม ๆ กัน ในขณะที่พิธีกรรมกำลังดำเนินอยู่ เนื่องจากวิญญาณแต่ละตัวมีเอกลักษณ์ที่ต่างกันออกไปนั้นเอง ภาพยนตร์เรื่องนี้จะไม่ค่อยนำเสนอฉาก Jump Scare มากเท่าไร แต่กลับสร้างความสดใหม่ และตื่นเต้นได้อย่างลงตัวเลยทีเดียว ตัวหนังจะไม่เพียงเป็นหนังผีที่เล่าความน่ากลัวแบบเดิม ๆ แต่ยังสะท้อนในแง่มุมชีวิตวัยรุ่น ที่มีความอยากรู้อยากลอง เรียกง่าย ๆ ว่าการจับมือและยอมให้วิญญาณเข้าสิง เปรียบเสมือนการเล่นยาเสพติด ที่ใช้เพียงอารมณ์ชั่ววูบที่จะเติมเต็มความสุข ณ ขณะนั้นได้ หรือใครจะใช้เป็นเครื่องมือที่ลืมความเจ็บปวดในช่วงเวลาหนึ่ง แต่แน่นอนว่าสิ่งเหล่านี้ไม่ได้อยู่ตลอดไปแถมยังส่งผลเสียตามมาอีกด้วย ถือว่าตัวบทแสดงแง่มุมหลาย ๆ ด้านให้เราได้เห็นได้อย่างดี ทางด้านภาพองค์ประกอบในฉากก็ถือว่าไม่ได้แย่ บวกกับนักแสดงที่ส่งพลังออกมาทำให้เราเชื่อจริง ๆ ว่าภาพตรงหน้าเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริง ๆ รวมถึงการรับรู้ความเจ็บปวดของตัวละครหลัก ว่าเพราะอะไรที่เธอตัดสินใจเข้าสู่พิธีกรรมนี้ หลังจากดูจบโดยภาพรวมคะแนนที่เราให้จะอยู่ที่ 9/10 เป็นหนังสยองขวัญอีกเรื่องที่ทำให้ตื่นเต้นตั้งแต่ต้นจนจบเลยก็ว่าได้