Take Care of Maya (2023) ใครจะดูแลมายา

หนังเรื่อง Take Care of Maya (2023) ใครจะดูแลมายา เป็นหนังฝรั่งแนว สารคดี อำนวยการสร้างโดย เคทลิน คีตติง กำกับภาพโดย แพทริก กินเน็ตตี ตัดต่อภาพโดย แอนนา ออสเตอร์ และ เฮนรี โรสเวลต์ กำกับการแสดงโดย เฮนรี โรสเวลต์ มาพร้อมกับนักแสดงนำของเรื่อง ได้แก่ เฮนรี โรสเวลต์ รับบทเป็น แจ็ค โควัลสกี (พนักงานดับเพลิงและพ่อของ มายา), และ มายา โควัลสกี รับบทเป็น มายา (ลูกสาวของ แจ็ค กับ บีเอตา โควัลสกี)
เป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นในช่วงต้นปี 2015 มีเด็กสาวชื่อ มายา โควัลสกี เป็นลูกสาวของ แจ็ค กับ บีเอตา โควัลสกี ตอนนั้นเธออายุได้ 10 ปี อยู่มาวันหนึ่งเธอเกิดอาการบางอย่างขึ้นมาอย่างไม่ทราบสาเหตุ พ่อกับแม่ของเธอจึงพาลูกสาวไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง แต่ไม่ได้เรื่อง พวกเขาจึงย้ายโรงพยาบาลเรื่อย ๆ จนสภาพร่างกายของเธอเริ่มอ่อนแรงลงจนไม่สามารถขยับร่างกายช่วงล่างได้ เธอขยับกล้ามเนื้อ และขาไม่ได้เลย แถมยังมีอาการบิดเกร็งอยู่ตลอดเวลาด้วย ที่แปลกประหลาดที่สุดคือ ทุกคนไม่สามารถสัมผัสตัวเธอได้ เพราะเธอมีอาการแสบร้อนภายในร่างกายเหมือนมีมีดมากรีดแทงเนื้ออยู่ตลอดเวลา ส่งผลให้เธอมีอาการเจ็บแบบนั้น แพทย์ในโรงพยาบาลต่างก็ให้ความเห็นว่าเป็นโรคที่น้อยคนจะป่วยได้ แพทย์ไม่สามารถวินิจฉัยโรคได้ เนื่องจากไม่เคยมีใครบนโลกเคยป่วยมาก่อน แม่ของเธอซึ่งเป็นพยาบาลสาวอยู่แล้วจึงสืบหารายละเอียดอาการของโรคดังกล่าว และพาเธอไปรักษาที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง เมื่อมาถึงก็พบว่ามีแพทย์ชื่อ ดร.แอนโทนี เคิร์กแพทริก เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการรักษาอาการของโรคนี้โดยเฉพาะ ซึ่งหลังจากวินิจฉัยแล้ว ดร.แอนโทนี ก็บอกกับแม่เธอว่าอาการที่แสดงออกมานั้นคือกลุ่มอาการปวดเฉพาะที่อย่างซับซ้อน หรือ CRPS ย่อมาจาก complex regional pain syndrome ซึ่งการรักษาโรคนี้ทำได้ด้วยการกินยาเคตามีน (ยาเสพติดทำให้หลอนประสาทชนิดหนึ่ง) มีผลต่อสมองโดยตรง แต่แพทย์คนนี้ก็อธิบายให้เข้าใจว่ายาชนิดนี้ใช้กระตุ้นสมองให้ทำงานเป็นปกติเท่านั้น หลังจากแนะนำคุณสมบัติของยาแล้ว ครอบครัวโควัลสกีจึงปรึกษากัน และตกลงว่าจะรักษาลูกสาวของตนเอง ถึงแม้ว่ายาจะมีผลข้างเคียงกับสมองจนเป็นอันตรายกับชีวิตของ มายา ก็ตาม และนี่คือจุดเริ่มต้นของเรื่องราวที่จะเกิดขึ้นต่อจากนาทีนี้เป็นต้นไป หากใครอยากทราบว่าเรื่องราวจะเป็นอย่างไรต่อ มายา โควัลสกี จะรักษาตัวจนหายขาดจากโรคนี้หรือไม่ และจะเกิดอะไรขึ้นหลังเธอได้รับยาเคตามีนเข้าไป เชิญทุกคนมาลุ้นเพื่อติดตามไปพร้อมกันที่นี่ได้เลย

หลังจากที่ได้ดูหนังตั้งแต่ต้นจนจบแล้ว ขอสรุปว่าเป็นหนังสารคดี การแพทย์ที่ถ่ายทอดเรื่องราวชีวิตจริงของเด็กสาวคนหนึ่งชื่อว่า มายา โควัลสกี เธออายุได้ 10 ปี และอยู่มาวันหนึ่งเธอมีอาการป่วยด้วยโรคประหลาดขึ้นมาอย่างไม่ทราบสาเหตุ พ่อกับแม่ของเธอจึงพาลูกสาวไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง แต่ไม่สามารถรักษาได้ จึงต้องย้ายโรงพยาบาลไปเรื่อย ๆ จนสภาพร่างกายของเธอเริ่มอ่อนแอจนไม่สามารถขยับร่างกายช่วงล่างได้ และคนอื่นก็ไม่สามารถจับตัวเธอได้เช่นกัน ทำให้หัวใจของคนเป็นพ่อแม่เจ็บปวดเหลือเกินที่ไม่สามารถช่วยลูกสาวของตนเองได้ แม่เธอจึงสืบหาข้อมูงเกี่ยวกับอาการของโรคดังกล่าว และพาเธอไปรักษาที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง เมื่อมาถึงแพทย์วินิจฉัยอาการของโรค พร้อมกับบอกแม่เธอว่า อาการดังกล่าวที่แสดงออกมาคือ กลุ่มอาการปวดเฉพาะที่อย่างซับซ้อน (CRPS) หากอยากรักษาให้หายต้องกินยาเคตามีนถึงจะช่วยบรรเทาอาการเหล่านั้นลงได้ ครอบครัวของเธอจึงตกลงรักษาโดยให้เป็นหมอประจำตัวลูกสาวไปเลย แต่เมื่อรักษาไปสักพัก อาการก็เริ่มกลับมารุนแรงอีกครั้ง จึงต้องย้ายที่รักษาใหม่ ปรากฏว่าผลวินิจฉัยที่รักษามาตลอดกลับผิดโรค แท้จริงแล้วคืออาการของโรค MSBP (กลุ่มเด็กมีปัญหาที่โกหกสร้างเรื่องขึ้นมาให้คนที่ดูแลตัวเองมีสุขภาพทางจิตแทน) และด้วยเหตุผลนี้ มายา จึงถูกส่งตัวให้อยู่ในความดูแลของรัฐบาล รวมทั้งแม่ของเธอก็ถูกตั้งข้อหาว่าทารุณเด็กในปกครองด้วยกาคิดค้นหาวิธีรักษาโรคทางการแพทย์เอง ซึ่งลูกสาวของพวกเขาไม่ได้ป่วยจริง ทั้งหมดเธอแกล้งป่วยเพื่อเรียกร้องความสนใจจากพ่อแม่นั่นเอง สำหรับพล็อตเรื่องถือว่าทำออกมาได้ดีมาก จุดเด่นของหนังประกอบด้วย การดำเนินเรื่องตรงประเด็น ไม่ซับซ้อน รวมทั้งตัวละครหลักชื่อ มายา โควัลสกี แสดงได้สมบทบาทมาก โดยเธอสามารถถ่ายทอดอารมณ์ ความรู้สึกต่าง ๆ ออกมาได้ดี ถึงแม้ว่าเธออายุยังน้อยอยู่ก็ตาม ส่วนการจัดมุมกล้องในสถานที่จริงก็มีความเหมาะสม จุดนี้ช่วยให้หนังดูมีความเป็นธรรมชาติสูง แถมบรรยากาศในเรื่องก็ดีมากด้วย ส่วนจุดด้อยของหนังจะเป็นในเรื่องของการใช้จิตวิญญาณดู เพราะเป็นหนังแนวจิตวิทยา คนที่เข้ามาดูหนังเรื่องนี้ต้องเข้าใจธรรมชาติของเด็กคนหนึ่งที่มีปัญหาด้านจิตใจไม่ปกติก่อนถึงจะดูจนจบได้ สุดท้ายเทคนิคงานสร้างด้านแสงลงตัว สีมีความสวยงาม ฉากมืดมนเล็กน้อย บรรยากาศดี และองค์ประกอบอื่น ๆ โดยรวมของหนังดีมาก ดังนั้นคะแนนภาพรวมเราให้อยู่ที่ 9 เต็ม 10 คะแนน