Speak No Evil (2022) พักร้อนซ่อนตาย

Speak No Evil (2022) พักร้อนซ่อนตาย ภาพยนตร์ระทึกขวัญ / สยองขวัญ แนวจิตวิทยา กำกับโดย Christian Tafdrup ผลิตโดย Jacob Jarek จัดจำหน่ายโดย Nordisk Film นักแสดงนำโดย Morten Burian, Sidsel Siem Koch, Fedja van Huêt, Karina Smulders, Liva Forsberg, และ Marius Damslev เมื่อการตัดสินใจเดินทางไปพักผ่อนที่บ้านพักของคู่รักที่พึ่งพบกันมาไม่นานเพื่อใช้ช่วงเวลาแห่งความสุข โดยที่พวกเขาไม่รู้เลยว่านี่อาจเป็นจุดเริ่มต้นของเรื่องราวสุดอันตรายและความลับบางอย่างที่ถูกซ่อนเอาไว้

เรื่องราวเริ่มต้นที่ บียอร์นและหลุยส์ สองสามีภรรยาที่ตัดสินใจรับคำเชิญจากครอบครัวดัตช์ แพทริคและคาริน สองคู่รักที่พวกเขาพึ่งได้รักกัน แต่ดูเหมือนว่าหลุยส์จะค่อนข้างประทับใจในตัวของแพทริคเป็นอย่างมาก เนื่องจากแพทริคที่มีนิสัยและบุคลิกในอุดมคติที่หลุยส์อยากเป็น ทำให้เขารู้สึกพิเศษและตื่นเต้นมาก ๆ ที่กำลังจะได้ใช้เวลาพักผ่อนอยู่กับครอบครัวของดัตช์ บียอร์นและหลุยส์ พร้อมด้วยลูกสาวของพวกเขาที่ได้เดินทางไปยังชนบทของฮอลแลนด์ทันที พวกเขาได้พบกับบ้านหลังโตตั้งเด่นสง่าอยู่ท่ามกลางชนบทอันเงียบสงบ ในช่วงแรกเหมือนว่าจะเป็นบรรยากาศแบบที่หลุยส์นึกถึง แต่แล้วเมื่อเวลาผ่านไป ทางด้านของแพทริคก็เริ่มที่จะมีพฤติกรรมแปลก ๆ และเสียมารยาท โดนเธอได้ชักชวนให้บียอร์นได้รับประทานสเต็กเนื้อ ทั้ง ๆ ที่รู้อยู่แล้วว่าหล่อนเป็นมังสวิรัติ เหตุการณ์ในครั้งนี้สร้างความอึดอัดใจให้บียอร์นและหลุยส์เป็นอย่างมาก แม้ว่าบียอร์นจะพยายามขอความช่วยเหลือจากสามีมากแค่ไหน แต่เขากลับเพียงทำได้แค่ยิ้มเจื่อน ๆ เป็นเครื่องหมายบอกให้เธอได้ชิมอาหารตามที่แพทริคได้ชักชวน แต่เหมือนว่านี่จะเป็นเพียงแค่จุดเริ่มต้นของเรื่องราว เพราะทางด้านครอบครัวดัตช์ได้เริ่มแสดงพฤติกรรมแปลก ๆ พร้อมทั้งยังมีพฤติกรรมที่หยาบคายขึ้นเรื่อย ๆ เรื่องราวในครั้งนี้จะเป็นอย่างไรต่อไป ด้วยเหตุผลอะไรที่ทำให้ครอบครัวดัตช์ทำพฤติกรรมแปลก ๆ เช่นนี้ ติดตามและหาคำตอบไปพร้อม ๆ กันได้ในภาพยนตร์เต็มกันได้เลย

พักร้อนซ่อนตาย หนังที่เรียกว่ากดดันและทำให้คนดูรู้สึกขัดใจกับการตัดสินใจของตัวละครได้ตั้งแต่ช่วงต้น ๆ ของหนัง เป็นภาพยนตร์ที่เราอาจยังเดาทางไม่ได้มากในช่วงต้น ๆ เท่าไร แต่พอมาถึงท้ายเรื่องที่หนังเริ่มเฉลยถือว่าทำให้คนดูรู้สึกตกใจไม่น้อยเลย ส่วนตัวแล้วค่อนข้างประทับใจมาก ๆ เพราะเหมือนเราจะได้รู้ความจริงไปกับตัวละคร ทำให้หนังมีมิติมากขึ้น บวกกับการแสดงที่สามารถถ่ายทอดเรื่องความกลัว ความกดดันออกมาทางสีหน้าได้อย่างชัดเจน ไปจนถึงเคมีของคู่พระนางที่เล่นได้สมบทบาท แต่ก็ยังมาหลายช่วงหลายตอนที่ทำออกมาไม่ได้ดีเท่าที่ควร ดังนั้นส่วนตัวเราจะขอให้คะแนนหนังเรื่องนี้อยู่ที่ 5/10