Oppenheimer (2023) ออพเพนไฮเมอร์

Oppenheimer (2023) ออพเพนไฮเมอร์ เป็นภาพยนตร์แอ็กชันแนวชีวประวัติศาสตร์ เกี่ยวกับสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่ถูกจับตามองเป็นอย่างมาก ตัวหนังดัดแปลงมาจากหนังสือที่ชื่อ American Prometheus: The Triumph and Tragedy of J. Robert Oppenheimer เขียนโดย ไค เบิร์ด (Kai Bird) และ มาร์ติน เจ. เชอร์วิน (Martin J. Sherwin) หนังเต็มไปด้วยบรรยากาศของความตึงเครียด และทฤษฎีทางด้านของศาสตร์ฟิสิกส์สุดเข้มข้น ซึ่งหนังแสดงนำโดย คิลเลียน เมอร์ฟี, โรเบิร์ต ดาวนีย์ จูเนียร์, แมตต์ เดมอน, ฟลอเรนซ์ พิวจ์, เอมิลี บลันต์, เรมี มาเล็ค, แกรี โอลด์แมน, และ เคนเน็ธ บรานาห์

สำหรับภาพยนตร์เรื่องนี้จะเป็นการเล่าเรื่องราวของ เจ.โรเบิร์ต ออพเพ็นไฮเมอร์ นักฟิสิกส์ผู้ที่พยายามสร้างระเบิดปรมาณูในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง เป็นหนังที่จะปลุกเร้า และสร้างอารมณ์ของคนดูให้ลุ้นระทึกตลอดเวลาไปกับชายผู้ลึกลับ ซึ่งเป็นผู้ที่ต้องเสี่ยงชีวิตของตัวเองทำลายโลก เพื่อรักษาโลกใบนี้เอาไว้ให้ได้โดย ออพเพนไฮเมอร์ เป็นผู้ที่มีปัญหาและความสับสนในตัวเองมากมาย แต่เรื่องเหล่านั้นก็ถูกมองข้าม เพราะเขาเป็นคนที่ฉลาดปราดเปรื่อง จนทำให้มีคนเข้ามาขอความช่วยเหลือจากเขาเพื่อหาหนทางในการยุติสงครามโลกครั้งที่สองนี้ให้ได้ ซึ่งเขาก็มีความหวังเดียวนั่นก็คือ อาวุธปรมาณู ที่มีพลังทำลายล้างสูง จนสามารถยุติ และยับยั้งไม่ให้ทุกฝ่ายต้องสู้รบกันอีกต่อไป ซึ่งหนังเรื่องนี้เป็นผลงานการกำกับของ “คริสโตเฟอร์ โนแลน” เขาเป็นเจ้าพ่อที่สร้างหนังระดับโลกออกมาได้ยอดเยี่ยม และไม่ผิดหวังอีกเช่นเคย โดยการทำงานในเรื่องนี้อาจจะดูลำบากสักหน่อย เพราะมีการย้ายสถานที่เดิมจาก วอร์เนอร์ บราเธอร์ส มาเป็น ยูนิเวอร์แซล แต่ว่าความคิดสร้างสรรค์ของเขาก็ยังไม่เปลี่ยนแปลง ทำผลงานระดับเทพที่เต็มไปด้วยมิติใหม่ ๆ และชั้นเชิง กลยุทธ์มากมาย ออกมาให้เรารับได้รับชมกันจนได้

แต่ถ้าให้พูดตรง ๆ ภาพยนตร์เรื่องนี้ก็คงจะไม่เหมาะกับทุกคนสักเท่าไร เพราะถึงแม้ว่ามันจะเป็นหนังที่ยอดเยี่ยม แต่มันก็ยังไม่ใช่หนังที่มีความสนุกสนาน หรือความบันเทิงอะไรมากมายนัก หนังเรื่องนี้มาใน Mood & Tone ของความขึงขัง ดูจริงจัง ตึงเครียด และดุเดือดมาก ๆ เรียกได้ว่าตลอดทั้งเรื่องเต็มไปด้วยบทสนทนามากมาย แทบจะไม่มีช่วงเวลาให้เราได้พักหายใจกันเลยทีเดียว ดังนั้น เราจึงขอให้คะแนนของหนังเรื่องนี้อยู่ที่ 8.0 เต็ม 10 คะแนน เพราะไม่ว่าจะเป็นทางด้านของงานภาพ ฉาก CG แสง สี เสียง และองค์ประกอบโดยรวมของหนัง ถือว่าทางทีมงานทำออกมาได้ดีในระดับหนึ่ง ซึ่งถ้าหากใครที่ชอบหนังแนวนี้อยู่แล้ว ก็ไม่ควรพลาดเด็ดขาด