Nimona (2023) นิโมนา

หนังเรื่อง Nimona (2023) นิโมนา เป็นหนังการ์ตูนแอนิเมชันแนวแอ็กชัน ผจญภัย อำนวยการสร้างโดย คาเรน ไรอัน, จูลี แซคคารี, และ รอย ลี เขียนบทโดย โรเบิร์ต แอล. แบร์ด, และ ลอยด์ เทย์เลอร์ ตัดต่อภาพโดย แรนดี เทร็กเกอร์, และ เอริน แครกเคิล กำกับการแสดงโดย นิค บรูโน, และ ทรอย เควน มาพร้อมกับนักแสดงนำมากมาย ได้แก่ โคลอี เกรซ มอเรตซ์ พากย์เสียงเป็น นิโมนา (เด็กสาวผู้มีพลังแปลงกายได้), และ ริซวาน อาเหม็ด พากย์เสียงเป็น บัลลิสเตอร์ โบลด์ฮาร์ท (อัศวินผู้ถูกใส่ร้ายและต้องการล้างมลทินให้ตัวเอง)

เป็นเรื่องราวของอัศวินที่มีชื่อว่า บัลลิสเตอร์ โบลด์ฮาร์ท เขานั้นถูกใส่ร้ายว่าเป็นฆาตกรสังหารราชินีวาเลรินของอาณาจักรแห่งหนึ่ง เพราะดาบเล่มที่เขาถืออยู่ในขณะนั้นมีเลเซอร์ยิงออกมาพอดี เขาจึงต้องหลบหนีไปอยู่ที่อื่นสักพัก แล้วเขาก็สร้างแขนเทียมขึ้นมาใหม่ด้วย และหลังจากเหตุการณ์วันนั้น เขาเลยกลายเป็นผู้ลี้ภัยอย่างสมบูรณ์แบบ แถมยังมีคนทั้งอาณาจักรคอยมาไล่ตามเขาไม่หยุดไม่หย่อย และไม่นานมีเด็กสาวที่ชื่อว่า “นิโมนา” ได้เดินเข้ามาหาและได้บอกกับเขาว่า เธอจะช่วยให้พ้นจากมลทินความผิดนี้เอง ซึ่งเด็กสาวผู้นี้มีพลังวิเศษสามารถแปลงกายตนเองได้ จากนั้นทั้งคู่ได้ลองออกไปผจญภัยในโลกกว้างด้วยกัน จึงทำให้บัลลิสเตอร์กับนิโมนากลายเป็นเพื่อนสนิทที่รู้ใจกันในที่สุด แต่ภายหลังเขากลับรู้สึกว่าไม่สามารถแยกร่างอสูรกายของเด็กสาวได้ และนี่คือจุดเริ่มต้นของเรื่องราววุ่นวายที่จะเกิดขึ้นหลังจากนี้ สำหรับใครที่อยากรู้ว่า นิโมนา จะทำอย่างไรเพื่อล้างมลทินให้กับ บัลลิสเตอร์ โบลด์ฮาร์ท และเขาจะค้นหาฆาตรกรตัวจริงได้สำเร็จหรือไม่ เชิญคอหนังการ์ตูนทุกคนมาร่วมลุ้นเอาใจช่วยทั้งคู่ต่อที่นี่ได้เลย

หลังจากที่ได้ดูหนังเรื่องนี้ตั้งแต่ต้นจนจบแล้ว ขอสรุปว่าหนังการ์ตูนแอนิเมชันเรื่องนี้เป็นหนังแอ็กชัน ผจญภัยที่น่าทึ่งมาก เพราะภายในเรื่องมีเนื้อหาชวนให้คนดูลุ้นระทึกไปกับตัวละคร แถมยังสร้างความสนุกให้คนดูเป็นอย่างมากอีกด้วย เริ่มต้นที่พล็อตเรื่องถือว่าทำออกมาได้ดีเหมือนกัน ส่วนจุดเด่นของหนังมีมากมาย ทั้งการสร้างคาแร็กเตอร์ของตัวละครหลักที่สุดยอดมาก และยังเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่ไม่ซ้ำตัวละครอื่นเลย ส่วนโทนสีภายในหนังยังถูกออกแบบมาให้เป็นโทนร้อนแรง เหมาะกับฉากแอ็กชันเป็นที่สุด งานภาพ งานฉากดูแล้วเป็นสามมิติ ช่วยให้หนังลงตัวมากขึ้นด้วย นอกจากนี้การดำเนินเรื่องเป็นไปด้วยความสนุกมาก ไม่น่าเบื่อ และดนตรีประกอบหนังก็มีความลงตัวกับบรรยากาศภายในหนังด้วย ที่สำคัญหนังเรื่องนี้ได้เล่าเรื่องการใช้ชีวิตของสัตว์ประหลาดกับมนุษย์ผ่านตัวละครได้อย่างเป็นธรรมชาติมาก แต่จุดด้อยของหนังมีเพียงเล็กน้อยคือ ฉากแอ็กชันทำออกมาเกินจริงไปบ้าง แต่ก็ไม่ทำให้หนังดูลดความน่าสนใจลงแม้แต่น้อย ส่วนด้านเทคนิค ทั้งสีที่สวยงาม แสง ฉาก บรรยากาศ และองค์ประกอบอื่น ๆ โดยรวมดีมาก ดังนั้นคะแนนภาพรวมทั้งหมดอยู่ที่ 9 เต็ม 10 คะแนน