Malbatt Misi Bakara (2023)

Malbatt Misi Bakara (2023) ภาพยนตร์แอ็กชันสงครามทหารภาษามลายู มาเลเซียปี 2023 กำกับ อำนวยการสร้างและเขียนบทโดย Adrian Teh นำแสดงโดย บรอนต์ ปาลาแร รับบทเป็น พันตรีอัดนาน, ชาไฮซี แซม รับบทเป็น สิบตรีแรมลี, ฮารุล อาซรีนรับบทเป็น ร้อยโท อิสมาอิล นายทหารที่อายุได้คลาสสิก, ซาฮิริล อัดซิม รับบทเป็น ร้อยโทดาฮารี, ไอดิล ซูห์รี อเลาดิน รับบทเป็น ร้อยโทมุสตาฟา หัวหน้า, อัดลิน อามาน แรมลี รับบทเป็น พันเอก เราะห์มาน, เฟาซี นาวาวี รับบทเป็น พันตรี ออสมาน, โทนี่ ยูซอฟ รับบทเป็น อับด์ ซาหมัด, ซยาซวาน ซัลกิฟลาย รับบทเป็น โยฮาน และอิครัม จูฮารี รับบทเป็น สิบโทวาฮิด เรื่องราวสร้างจากเรื่องจริงของปฏิบัติการทางทหารของมาเลเซีย เพื่อช่วยทหารสหรัฐฯ ที่ติดอยู่ในสงครามกลางเมืองในโซมาเลียเมื่อปี 1993 ภาพยนตร์เข้าฉายเมื่อวันที่ 24 สิงหาคม 2023 ในมาเลเซียและสิงคโปร์
เรื่องราวของสหประชาชาติที่สร้างโครงการ เพื่อนำสันติภาพมาสู่โซมาเลีย พวกเขาตั้งชื่อปฏิบัติการว่า UNISOM กองพันมาเลเซียมีส่วนสำคัญในภารกิจนี้ ปัญหามาจากเมืองโมกาดิชู เมืองหลวงของโซมาเลีย ในระหว่างการต่อสู้อยู่นั้นมีทหารอเมริกันติดอยู่ในตลาดจำนวน 70 นาย ขณะเดียวกันพวกกบฏกำลังซ่อนตัวอยู่ในตลาด Bakara ณ เมืองโมกาดิชู เป็นกลุ่มกำลังหน่วยกองรบที่มีอาวุธครบมือ ส่งผลให้ฝั่งอเมริกาจำเป็นต้องขอความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วนที่สุด ซึ่งการเข้าช่วยเหลือในครั้งนี้นำทีมโดย พันตรี แอดนัน กับ LCPL แรมลี ทหารหน่วยที่ 19 กองทัพที่ได้รับมอบหมายเข้าไปช่วยเหลือกองกำลังฝั่งอเมริกา แต่ดูเหมือนว่าภารกิจนี้จะไม่ใช่เรื่องง่าย เนื่องจากไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับแผนของพวกกบฎ หรือแหล่งกบดานของพวกมัน ทำให้เกิดความเสี่ยงหากจะเดินหน้าเข้าไปช่วยทันที นอกจากนี้ความโกลหนยังไม่หมด เพราะเหล่าทหารยังต้องประสบกับปัญหาด้านศาสนา เนื่องจากเหล่าคนร้ายที่พวกเขาเจอล้วนแล้วแต่เป็นชาวมุสลิม หากตัดสินใจผิดพลาดอาจทำให้ถูกมองว่านี้คือ ภารกิจของ “กองทัพคนขาว” ที่บุกสังหารผู้อื่นก็เป็นได้ เรื่องราวจะเป็นอย่างไรสามารถติดตามในหนังเต็มกันได้เลย

หลังจากรับชมภาพยนตร์เรื่องนี้จบคะแนนที่ให้คือ 9/10 คะแนน ภาพยนตร์เรื่องนี้จะทำให้คุณรู้สึกตื่นเต้นตั้งแต่ฉากแรก เมื่อปี 1993 ทหารมาเลเซียหน่วยหนึ่งกำลังเผชิญหน้ากับกลุ่มติดอาวุธโซมาเลีย ในภารกิจช่วยเหลือตัวประกัน พวกเขาเคลื่อนตัวผ่านอาคารที่ตัวประกันถูกจับ เมื่อถูกกลุ่มติดอาวุธต่อต้าน พวกเขาตอบโต้ด้วยประสิทธิภาพทางทหารที่ร้ายแรง ฉากเปิดเรื่องเหล่านั้น ช่วยทำให้เราเห็นถึงความแตกต่างในสิ่งที่ทั้งสองฝ่ายมีได้อย่างชัดเจน ทหารมาเลเซียมืออาชีพสวมเครื่องแบบเต็มชุดพร้อมอุปกรณ์ป้องกันทหารราบครบชุด ติดอาวุธอย่างดี มีอุปกรณ์สื่อสาร ได้รับการสนับสนุนจากแพทย์ภาคสนาม ได้รับการฝึกอบรมมาอย่างดี เพื่อปฏิบัติภารกิจในฐานะหน่วย แต่ชาวโซมาลิสสวมมีแต่เสื้อผ้าพลเรือนโทรม ๆ โดยไม่มีแม้แต่รองเท้า เห็นชัดถึงความยากจน พวกเขามีอาวุธครบมือ แต่นั่นคือทั้งหมดที่มี การต่อสู้ด้วยความสิ้นหวังและท้าทาย โดยขาดการฝึกอบรม จึงถูกยิงอย่างง่ายดาย ฉากการต่อสู้เหล่านั้นทำเอาเราร้องไห้กับโศกนาฏกรรมนี้ ถึงแม้ว่าภารกิจช่วยเหลือจะสำเร็จก็ตาม เราคิดว่าหนังตั้งใจที่จะให้เราเห็นถึงความสูญเสีย ในส่วนของ CG เอฟเฟกต์ทำออกมาดี แต่ไม่ค่อยสมจริงเท่าไหร่ ทั้งควันและการระเบิด ในส่วนของนักแสดง โดยพื้นฐานแล้วนักแสดงส่วนใหญ่แสดงได้ดี โดยเฉพาะชาเฮซีซี ที่มีความโดดเด่น เพื่อลดความรุนแรงจากผลกระทบที่เกิดจากความเป็นชาย ผู้กำกับดูจงใจใส่บทบาทผู้หญิงในภาพยนตร์เรื่องนี้ สรุปแล้วภาพยนตร์เรื่องนี้ มีเนื้อหาเข้มข้น สร้างแรงบันดาลใจ บีบหัวใจ และสนุก ขอชื่นชมทีมงานทุกคนที่มีส่วนร่วมในการสร้างภาพยนตร์ ซึ่งเรื่องนี้เป็นหนังมาเลเซียที่ดีที่สุดที่เคยดู เป็นการนำเสนอเรื่องจริงอีกด้านของมาเลเซียทำออกมาได้ดีมาก ๆ