Legend of the Fist The Return of Chen Zhen (2010) เฉินเจิน หน้ากากฮีโร่

Legend of the Fist The Return of Chen Zhen (2010) เฉินเจิน หน้ากากฮีโร่ ภาพยนตร์แนวแอ็กชัน / สืบสวน จากประเทศฮ่องกง กำกับโดย แอนดริว เลา ออกฉายเมื่อกลางปี ค.ศ. 2010 นำแสดงโดย เจิ้น จื่อตัน, ซูฉี, หวง ชิวเซิน, และ หยู เหวินเล่อ

เรื่องราวเริ่มต้นขึ้นในปี 1915 เฉินเจิน ที่หลายคนคิดว่าเสียชีวิตไปแล้วได้ปรากฏตัวเป็นหนึ่งในชาวจีนที่ถูกส่งไปร่วมรบในฝรั่งเศสระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 1 แม้จีนจะอยู่ในฝั่งของผู้ชนะแต่ยังคงเป็นเบี้ยล่างของต่างชาติ โดยเฉพาะอังกฤษและญี่ปุ่นที่หวังแบ่งเค้กแย่งผลประโยชน์ในทรัพยากรของแดนมังกร เฉินเจินพร้อมด้วยเพื่อนพ้องที่รอดชีวิตจากสงครามตัดสินใจเดินทางกลับมาเซียงไฮ้ เพื่อดำเนินการใต้ดินต่อต้านขับไล่ทหารญี่ปุ่น เฉินเจิน เปลี่ยนมาใช้ชื่อแส่อื่นแทน เพื่อแฝงตัวเป็นเศรษฐีเข้าเป็นหุ้นส่วนของไนต์คลับคาซาบลังก้า ที่มีเหล่านักธุรกิจชาวจีนรายหนึ่งเป็นเจ้าของ เฉินเจินค่อย ๆ สืบข่าวและดำเนินการต่อต้านญี่ปุ่น ซึ่งเขาได้รับความช่วยเหลือจากชาวจีนที่รักชาติและออกทำงานภายใต้ชุดหนังกับหน้ากาก และยังเป็นวีรบุรุษที่ไม่มีใครรู้จักตัวจริง ด้วยความช่วยเหลือจากชาวจีนคนอื่น ๆ แต่ความเคลื่อนไหวของเขายังอยู่ในสายตาของนายพลชาวญี่ปุ่น ที่ตั้งข้อสงสัยแต่ยังไม่มีหลักฐานเพียงพอ ขณะเดียวกัน กีกี้ นักร้องสาวชาวจีนดาวเด่นแห่งคาซาบลังก้าที่มีเบื้องหลังความเป็นมาที่ไม่มีใครรู้ เธอมีอุดมการณ์และมีเป้าหมายบางอย่างที่จะทวงคืนอิสรภาพให้แก่คนจีน เรื่องราวจะเป็นอย่างไรต่อ เฉินเจินจะสามารถตามสืบและได้หลักฐานเพื่อปลดปล่อยชาวจีนได้หรือไม่ติดตามกันต่อได้ในภาพยนตร์เต็มกันเลย

Legend of the Fist The Return of Chen Zhen (2010) เฉินเจิน หน้ากากฮีโร่ ถือว่าเป็นภาพยนตร์ที่สนุกและมีฉากการต่อสู้ที่นำเสนอได้อย่างสนุกมาก ๆ อีกเรื่องเลย ค่อนข้างมีคิวและความสมจริงของนักแสดง เพิ่มให้ตัวหนังมีความเข้มข้นมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังนำเสนอเรื่องราวได้แบบรวดเร็วไม่ยืดยาว เน้นการใส่เนื้อหาที่จำเป็น เล่ากระฉับ ในฐานะผู้ชมจึงรู้สึกว่าไม่มีจังหวะไหนที่น่าเบื่อเลย เรียกว่าพากันลุ้นตั้งแต่ต้นจนจบ แถมตัวหนังยังแทรกเรื่องราวของประวัติศาสตร์ในช่วงเวลานั้น ถือว่าเป็นหนังที่แทรกเรื่องราวและเพิ่มอรรถรสให้มีความน่าสนใจไม่น่าเบื่อ ส่วนตัวจะขอให้คะแนนหนังเรื่องนี้อยู่ที่ 7/10 อยากให้เพิ่มเนื้อหาในบางช่วงมีการอธิบายเพิ่มเติม เพราะว่าบางฉากยังดูสับสนไปหน่อย