Landscape with Invisible Hand (2023)

หนังคอเมดี้ / ไซไฟ เรื่อง Landscape with Invisible Hand (2023) กำกับการแสดงโดย Cory Finley นักแสดงนำ Asante Blackk, Kylie Rogers, Tiffany Haddish, Brooklynn MacKinzie, Josh Hamilton เรื่องราวของโลกอนาคตที่ปกครองโลกผ่านเทคโนโลยีชั้นสูง โดยเผ่าพันธ์ุต่างดาวที่เข้ามายึดครองโลก ทำให้สองวัยรุ่นต้องการวางแผนเพื่ออนาคตที่ดีกว่า
เปิดเรื่องมาในปี 2036 ในตอนนี้โลกทั้งใบกำลังถูกปกครองโดยเอเลี่ยนที่ชื่อว่า วู การมาถึงของพวกมันทำให้เหล่ามนุษย์ถูกผลักให้กลายเป็นชนชั้นที่ต่ำต้อยมากกว่าเดิม ขณะที่พวกเอเลี่ยนใช้ชีวิตบนเกาะลอยฟ้าขนาดใหญ่ ในทางกลับกันเหล่ามนุษย์ได้ถูกทิ้งให้อยู่บนแผ่นดินที่แห้งแล้งและเสื่อมโทรม อดัมเป็นคนที่ชื่นชอบและหลงใหลในศิลปะ พ่อได้ทิ้งครอบครัวไปเมื่อหลายปีก่อน โดยแม่ที่เคยทำงานเป็นทนายความ ต้องตกอยู่สถานภาพว่างงาน หลังจากการมาถึงของเหล่าเอเลี่ยน โชคดีที่พวกเขายังมีบ้านแม้ว่ามันจะเสื่อมโทรมมาก ๆ ก็ตาม ในตอนนี้อาหารที่มนุษย์ได้รับนั้น จะเป็นอาหารสังเคราะห์คุณภาพต่ำเท่านั้น ตัดภาพมาทางด้านของโรงเรียน ตอนนี้เหล่านักเรียนจะถูกสวมเครื่องควบคุมที่ทำหน้าที่ถ่ายทอดคำสอนต่าง ๆ โดยเหล่าเอเลี่ยน อดัมสังเกตเห็นเด็กสาวคนใหม่ เธอมีชื่อว่า โคลอี้ เขาเริ่มต้นที่ชวนเธอสนทนาเชื่อมความสัมพันธ์ จากนั้นเขาได้รู้ว่าครอบครัวของโคลอี้ไม่มีที่อยู่ ขณะที่พวกเขากำลังเดินอยู่ด้านนอกโรงเรียน ก็ได้มีเสียงปืนดังขึ้น เสียงนี้เกิดจากการปลิดชีพตัวเองของครูประจำชั้น โดยก่อนหน้าที่เขาได้แจ้งข่าวกับนักเรียนตัวเองถึงการเกษียณตัวเอง เนื่องจากพวกเอเลี่ยนจะส่งหุ่นยนต์มาแทนที่ อดัมหันไปชวนโคลอี้ให้เข้ามาพักอาศัยกับพวกเขาที่บ้าน ภาพตัดไปที่สองครอบครัวกำลังกินข่าวร่วมกัน พ่อของโคลอี้กล่าวขอบคุณครอบครัวอดัม พร้อมกล่าวขอบคุณและสัญญาว่าจะรีบจ่ายค่าเช่าทันทีหลังจากหางานได้ แม่ของอดัมรู้สึกงงก่อนจะหันไปถามอดัมถึงเรื่องราวทั้งหมด แม่ดูไม่พอใจกับเหตุการณ์นี้เป็นอย่างมาก ดูเหมือนว่าความสัมพันธ์ของทั้งสองจะค่อย ๆ เริ่มพัฒนาขึ้นเรื่อย ๆ ด้วยความคิดและความเข้าใจซึ่งกันและกัน จนทั้งสองต่างมีความคิดเห็นอยากที่จะลุกขึ้นมาสร้างชีวิตที่ดีกว่าที่เป็นอยู่ขณะนี้ เรื่องราวจะเป็นอย่างไรต่อติดตามรับชมกันต่อในหนังเต็มได้เลย
หลังจากดูจบค่อนข้างให้ความรู้สึกที่หลากหลาย ตั้งแต่การตัดจบของหนังที่ไม่ได้เล่าต่ออะไรมากมายว่าภารกิจจะสำเร็จหรือเปล่า เจ้าเอเลี่ยนที่หนังสร้างขึ้นมาก็ดูติ๊กต๊องมากกว่าน่ากลัวอีก หลัก ๆ เหมือนหนังกำลังจะเล่าในเชิงยกตัวอย่างโลกที่ถูกสร้างขอบเขตให้ต้องใช้ชีวิตไปเป็นแบบแผน คนไม่สามารถเลือกได้ ใส่ตัวละครหลักที่มีความคิดอยากที่จะทำให้โลกนี้ดีกว่าเดิม พล็อตก็ดูเป็นหนังกฎบทั่ว ๆ ไป แต่บอกเลยว่าใครที่อยากได้ฉากแอ็กชัน CG หนัก ๆ แบบหนังเอเลี่ยนอื่น ๆ เรื่องนี้อาจไม่ตอบโจทย์ การเล่าเรื่องค่อนข้างช้า หลาย ๆ ช่วงทำให้รู้สึกเบื่อ ในส่วนของตัวนักแสดงก็แสดงในบทของตัวเองออกมาได้ดี รับส่งค่อนข้างโอเค แต่ผิดหวังตอนท้ายของหนังมากกว่า เหมือนหนังจะใส่รายละเอียดตอนแรกมากเกิน ทำให้เวลาไม่เพียงพอเล่าตอนจบ รวม ๆ แล้วขอให้คะแนนหนังอยู่ที่ 5.5/10