Kursk (2019) คูร์ส หนีตายโคตรนรกรัสเซีย

Kursk (2019) คูร์ส หนีตายโคตรนรกรัสเซีย เป็นหนังแนวชีวิต ดราม่า กำกับ โธมัส วินเทอร์เบิร์ก นำแสดง โคลิน เฟิร์ธ, ลีอาห์ เซย์ดูซ์, แมทเธียส เชอร์นาร์ท, และ ไมเคิล นีควิสต์ สร้างจากเหตุการณ์เรือดำน้ำพลังงานนิวเคลียร์ K-141 ระเบิด และจมลงสู่ก้นทะเลบาเรนต์เมื่อเดือนสิงหาคม ปี 2000 เป็นเหตุให้ลูกเรือชาวรัสเซียเสียชีวิต 118 ศพ ลูกเรือที่รอดชีวิตจากการระเบิด 23 คน ต้องต่อสู้เพื่อเอาตัวรอดกันเอง

เรื่องราวเริ่มต้นเมื่อเดือน สิงหาคม ปี 2000 เรือดำน้ำพลังงานนิวเคลียร์ครูส์เข้าร่วมปฏิบัติการซ้อมรบครั้งใหญ่ที่สุดของกองทัพเรือรัสเซียในมหาสมุทรอาร์กติก แต่ระหว่างฝึกซ้อมทั้งหมดได้พบกับเหตุการณ์ไม่คาดฝัน เมื่อตอปิโดในเรือเกิดระเบิดขึ้นจากลูกแรกก่อนที่จะลุกลามไปถึงตอปิโดลูกอื่น ๆ ทำให้เรือดำน้ำคูรส์จมลงสู่ใต้ท้องทะเลทันที ส่วนหนึ่งของเรือพัง อุณหภูมิภายในเรือไต่ไปถึงจุดเดือด น้ำทะเลเริ่มไหลทะลักท่วมเรือและลูกเรือเกือบ 100 ชีวิตได้ตายทันที ซึ่งตอนนี้เหลือเพียงลูกเรือเพียง 23 รายเท่านั้น ทั้งหมดเหมือนถูกขังทั้งเป็นในเรือมรณะลำนี้ โดยไร้ทุกการช่วยเหลือใด ๆ เพราะรัฐบาลรัสเซียปฏิเสธข้อเสนอจากกองทัพนานาชาติ เนื่องจากกลัวความลับของกองทัพรั่วไหล ทำให้ครอบครัวและคนรักของเหล่าทหารทั้ง 23 คนไม่มีใครรู้ชะตากรรมของคนที่รอดอยู่เลยว่าตอนนี้พวกเขากำลังเผชิญกับอะไรบ้าง ส่งผลให้ทางรัฐบาลรัสเซียถูกกดดันเป็นอย่างมาก เนื่องจากตอนนี้ออกซิเจนภายในเรือเริ่มที่จะหมดไปเรื่อย ๆ ลูกเรือทั้ง 23 คนเหมือนผู้ที่กำลังนั่งรอความตายไปอย่างช้า ๆ เรื่องราวต่อจากนี้จะดำเนินไปอย่างไร สุดท้ายแล้วทางฝั่งรัฐบาลจะยอมรับความเชื่อเหลือในครั้งนี้หรือไม่ ติดตามกันต่อในภาพยนตร์เต็ม ๆ กันได้เลย

Kursk (2019) คูร์ส หนีตายโคตรนรกรัสเซีย เรียกว่าเป็นภาพยนตร์ดราม่าอีกเรื่องที่สนุกและน่าติดตามตั้งแต่ต้นเรื่องจนจบเลย ตัวหนังเพิ่มความกดดันโดยการฉายให้เห็นลูกเรือทั้ง 23 คนที่รอดชีวิตโดยติดอยู่ในเรือที่กำลังจมดิ่งสู่ก้นบึ้งของทะเล ส่วนตัวค่อนข้างชื่นชมในการเล่าเรื่องมาก ๆ สามารถถ่ายทอดออกมาได้ดี แต่บางช่วงอาจรู้สึกว่าใส่เนื้อหาบทพูดมาจนเกินไปทำให้หนังดูจืด ๆ ไปบ้าง แต่หลัง ๆ ถือว่าเล่าได้ดีเลยทีเดียว ด้านงานภาพและการแสดงต้องขอชื่นชมเพราะว่าทีมนักแสดงเล่นได้เข้าถึงเหมือนว่าติดอยู่ในเรือเองจริง ๆ ยิ่งสร้างให้ผู้ชมกดดันมากยิ่งขึ้นไปพร้อมกันได้ด้วย ภาพรวมขอให้คะแนนหนังเรื่องนี้อยู่ที่ 9/10 เป็นหนังชีวิต ดราม่า ที่ครบเครื่องและเข้าถึงอารมณ์ได้ดีมาก ๆ เลย