In My Mother’s Skin (2023) ร่างลวง

หนังเรื่อง In My Mother’s Skin (2023) ร่างลวง เป็นหนังฝรั่งแนวแอ็กชัน สยองขวัญ แฟนตาซี สงคราม อำนวยการสร้างโดย เบียงกา บัลบูเอนา, สเตฟาโน เซนตินี, และ จุนเซียง ฮวง กำกับภาพโดย รัสเซลล์ อดัม มอร์ตัน ตัดต่อภาพโดย หมิง เฉิง เก้า เขียนบทและกำกับการแสดงโดย เคนเน็ธ ดากาตัน มาพร้อมกับนักแสดงนำมากมาย ได้แก่ บิวตี กอนซาเลซ รับบทเป็น ลิกายา, เฟลิซิตี ไคล์ นาปูลี รับบทเป็น ทาลา, เจมส์ มาวี เอสเตรลลา รับบทเป็น บายานี, จัสมิน คาซันดรา เคอร์ติส-สมิธ รับบทเป็น นางฟ้า, และ แองเจลี บายานี รับบทเป็น อามอร์

เป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นในปี 1945 ขณะประเทศฟิลิปปินส์ได้เกิดสงครามโลกครั้งที่ 2 และกำลังจะสิ้นสุด และมีเด็กหญิงคนหนี่งชื่อว่า ทาลา เธออาศัยอยู่ในบ้านเก่ากับครอบครัวร่วมกับน้องชายและแม่ที่ป่วยอย่างหนักจนใกล้จะตาย ขณะที่เกิดสงครามขึ้นเธอก็ต้องดูแลพวกเขาไปพร้อม ๆ กับต้องทั้งคอยปกป้องพวกเขาจากอันตรายทั้งในและนอกบ้านด้วย หลังจากนั้นไม่นานเธอก็ได้พบกับนางฟ้า ซึ่งกำลังกินเนื้อในป่าแห่งหนึ่งอยู่ เธอจึงเข้าไปขอความช่วยเหลือจากนางฟ้าว่า ให้ช่วยแม่ของเธอหายป่วยและกลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติอีกครั้ง ต่อมานางฟ้าก็ยืนยันจะช่วยเธอเองแต่มีเงื่อนไขเล็กน้อย ซึ่งเธอก็หลงเชื่อใจและยินยอมทำตามคำสั่งของนางฟ้าทุกอย่าง เพราะเธอรักแม่มาก หลังจากวันนั้นเธอเริ่มกลายเป็นคนเลือดเย็น รวมทั้งแสดงพฤติกรรมรุนแรงมากขึ้นจนกระทั่งเธอคิดได้ว่านางฟ้าไม่ได้ช่วยแม่ของเธอเลยแม้แต่น้อย นางฟ้าหลอกกินเนื้อของคนในครอบครัวเธอ เธอจึงต้องรีบวางแผนเพื่อจัดการนางฟ้าพร้อมกับดูแลปกป้องแม่กับน้องชายไปในเวลาเดียวกันด้วย หากใครอยากรู้ว่าเรื่องราวจะเป็นอย่างไรต่อนั้น ทาลาจะสามารถปกป้องครอบครัวของเธอได้สำเร็จหรือไม่ และแม่ของเธอจะหายทรมานจากอาการป่วยหรือเปล่า ทุกคนสามารถเข้ามาลุ้นเพื่อติดตามไปพร้อมกันได้ที่นี่เลย

หลังจากที่ได้ดูหนังเรื่องนี้ตั้งแต่ต้นจนจบแล้ว ขอสรุปว่าเป็นหนังแอ็กชัน สยองขวัญ แฟนตาซีที่ถ่ายทอดเรื่องราวที่มีจุดเริ่มต้นมาจากปี 1945 ประเทศฟิลิปปินส์ได้เกิดสงครามโลกครั้งที่ 2 และกำลังจะสิ้นสุดลง โดยพล็อตเรื่องถือว่าดีมาก จุดเด่นของหนังคือมีการผสมผสานการเมืองเข้ามาให้คนดูเห็นว่าในช่วงยุคสงครามโลกครั้งที่ 2 ชาวฟิลิปปินส์ถูกกดขี่ข่มเหงจากทหารชาวญี่ปุ่นอย่างไรบ้าง อีกทั้งยังสะท้อนให้เห็นว่าทุกอย่างที่เกิดขึ้นในหนังเป็นเพียงภาพลวงตาเท่านั้น ไม่ได้มีเรื่องจริงแม้แต่น้อยยกเว้นสงครามโลก นอกจากนี้ยังมีการดำเนินเรื่องกระชับมาก ส่วนด้านความโหดร้ายที่แสดงออกมาดูแล้วสยองขวัญพอสมควร รวมทั้งการถ่ายภาพก็ทำออกมาได้สวยงาม อย่างไรก็ตามจุดด้อยของหนังคือ ตัวหนังยังทำออกมาได้ไม่ดีเท่าไหร่ หากเพิ่มมิติอีกเล็กน้อยจะช่วยให้หนังมีคุณภาพมากกว่านี้ สุดท้ายนี้เทคนิคต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นบรรยากาศชวนหลอน แสงน้อยไปหน่อย ฉากมืดมนมาก สีมีความสวยงาม การแต่งกายประจำชาติ และองค์ประกอบอื่น ๆ โดยรวมของหนังถือว่าดีในระดับหนึ่ง ดังนั้นคะแนนภาพรวมทั้งหมดเราให้อยู่ที่ 9 เต็ม 10 คะแนน