Hatchet (2006)

หนังเรื่อง Hatchet (2006) เป็นหนังฝรั่งแนวสยองขวัญ ไล่ฆ่า ตลก ระทึกขวัญ อำนวยการสร้างโดย สก็อตต์ อัลโตแมร์, ซาราห์ เอลเบิร์ต, และ คอรีย์ เนล กำกับภาพโดย วิลเลียม บาร์รัต ตัดต่อภาพโดย คริสโตเฟอร์ รอธ เขียนบทและกำกับการแสดงโดย อดัม กรีน มาพร้อมกับนักแสดงนำมากมาย ได้แก่ โจเอล เดวิด มัวร์ รับบทเป็น เบน, ทามารา เฟลด์แมน รับบทเป็น แมรี่เบธ ดันสตัน, ดิออน ริชมอนด์ รับบทเป็น มาร์คัส, เคน วอร์เรน ฮอดเดอร์ รับบทเป็น วิคเตอร์ โคร์วลีย์ และ มิสเตอร์ โคร์วลีย์, และ โทนี่ ทอดด์ รับบทเป็น ซอมบี้

เนื้อเรื่องเป็นเรื่องราวของเพื่อนสนิทสองคน ประกอบด้วย เบน และ มาร์คัส ที่ต้องการฉลองในคืนสุดท้ายของเทศกาลคาร์นิวัลด้วยการตัดสินใจไปเที่ยวที่หนองน้ำแห่งหนึ่ง แต่พอไปถึงพวดเขาก็พบว่าสถานที่แห่งนี้ถูกปิดถาวร จึงเดินไปลงเรือเพื่อไปดูสถานที่อื่น และในครั้งนี้ทำให้พวกเขาได้พบกับกลุ่มนักท่องเที่ยวที่ขึ้นมาบนเรือลำเดียวกัน หลังจากนั้นไม่นานเรือที่พวกเขานั่งมากลับจมลงใต้น้ำซึ่งหาสาเหตุไม่ได้ว่าเกิดจากอะไรกันแน่ แล้วในขณะเดียวกัน วิคเตอร์ โคร์วลีย์ ก็โผล่มามา และพยายามไล่ฆ่าทีละคน ทำให้พวกเขาต้องหาทางหนีตายออกไปจากหนองน้ำแห่งนี้ให้เร็วที่สุด ส่วนเรื่องราวจะเป็นอย่างไรต่อ นักท่องเที่ยวกลุ่มนี้จะสามารถเอาชีวิตรอดไปจากหนองน้ำได้หรือไม่ เชิญทุกคนมาลุ้นเอาใจช่วยพวกเขาไปพร้อมกันต่อที่นี่เลย

หลังจากที่ได้ดูหนังตั้งแต่ต้นจนจบแล้ว ขอสรุปว่าภาพยนตร์เรื่องนี้มาในแนวสยองขวัญ ระทึกขวัญ คอมเมดี้ที่สามารถสร้างเสียงหัวเราะให้กับคนดูได้เช่นเดียวกับภาคอื่น ๆ เพียงแต่ว่าภาคนี้จะเพิ่มความโหดของนักฆ่าให้มากขึ้นเท่านั้นเอง สำหรับพล็อตเรื่องถือว่าทำออกมาได้พอใช้ จุดเด่นของหนังก็มีบ้างคือ มีการเล่าเรื่องราวของนักฆ่า วิคเตอร์ โคร์วลีย์ ว่าความจริงแล้วเขามีจุดเริ่มต้นมาจากไหน และทำไมเขาถึงมีรูปร่างหน้าตาที่แปลกประหลาดต่างจากคนทั่วไป นอกจากนี้นักฆ่ายังโคตรโหด ตามไล่ล่า และฆ่าคนแบบเลือดสาดกระจาย คนที่ชอบหนังสยองขวัญน่าจะชื่นชอบหนังในภาคนี้เป็นอย่างมาก ส่วนจุดด้อยของหนังมีน้อยมากคือ หนังใช้เวลาในการถ่ายทอดเรื่องราวสั้นไปหน่อย และด้วยความที่ในเรื่องมีทั้งนักแสดงชุดเดิม และชุดใหม่ จึงทำให้จุดนี้เห็นความแตกต่างอย่างชัดเจน เพราะตัวละครหลัก และรองที่เป็นนักแสดงหน้าใหม่ แสดงได้ไม่ดีเท่าที่ควร แถมยังเล่นได้แข็งมาก ไม่เหมาะกับคาแร็กเตอร์ที่ได้รับเลย สุดท้ายคือเมื่อดูหนังจบแล้วก็ยังไม่ทราบว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับผู้ที่รอดชีวิตในหนองน้ำแห่งนี้ต่อ เพราะอยู่ดี ๆ หนังก็ตัดจบไปแบบดื้อ ๆ โดยไม่ทิ้งปริศนาชวนให้คนดูลุ้น หรือติดตามหนังในภาคต่อไป สุดท้ายในเรื่องเทคนิคที่นำมาใช้ในหนังทั้ง แสง สี ฉากซีจี เสียงดนตรีประกอบ และองค์ประกอบอื่น ๆ โดยรวมของหนังถือว่าทำออกมาใช้ได้ ไม่ได้แย่จนเกินไป เพราะฉะนั้นเราขอให้คะแนนภาพรวมของหนังอยู่ที่ 5 เต็ม 10 คะแนน