Godzilla Minus One (2023)

ภาพยนตร์แนวต่อสู้ / สัตว์ประหลาด เรื่อง Godzilla Minus One (2023) กำกับการแสดงโดย ทาคาชิ ยามาซากิ นักแสดงนำ มินามิ ฮามาเบะ, รีวโนซูเกะ คามิกิ, ยามาดะ ยูคิ, และ ซากูระ อันโด หลังเหตุการณ์การพ่ายแพ้สงครามโลกครั้งที่ 2 ของญี่ปุ่น สภาพเมืองและจิตใจของประชาชนค่อนข้างที่จะย่ำแย่ไม่ต่างกัน แต่แล้วพวกเขาก็ต้องโชคร้ายเมื่อญี่ปุ่นต้องเผชิญหน้ากับภัยคุกคามจาก “สัตว์ประหลาด” ที่ปรากฏตัวขึ้นอย่างปริศนา
เรื่องราวเริ่มต้นเมื่อ โคอิชิ นักบินพลีชีพจากกองทัพญี่ปุ่น เขาได้เลือกที่จะลงจอดเครื่องบนภายใต้เกาะแห่งนึง โดยเขาให้เหตุผลว่าตอนนี้เครื่องบินของตนเองเกิดขัดข้อง ทางฝั่งเจ้าหน้าที่ได้เข้าไปตรวจสอบเครื่องบินและพบว่าสามารถใช้การได้ปกติ ซึ่งการกระทำเช่นนี้โคอิชิเข้าข่ายเป็นทหารหนีทัพที่ไม่ปฏิบัติตามหน้าที่ที่ตัวเองได้รับมอบหมาย ทางโคอิชิไม่ต้องการจะพลีชีพเนื่องจากตอนนี้ญี่ปุ่นได้แพ้สงครามเป็นที่เรียบร้อย ในคืนนั้นเองพวกเขาก็ได้พบกับสิ่งมีชีวิตลึกลับที่ได้โผล่ขึ้นมาจากใต้น้ำ โดยมันบุกเข้ามายังเกาะโดยมีเสียงคำรามกึกก้องพร้อมทั้งทำลายหอสังเกตการณ์จนหมด ชาวบ้านในพื้นที่ต่างเรียกสิ่งมีชีวิตนี้ว่า Godzilla เหล่าทหารเริ่มโดนสัตว์ลึกลับตัวนี้เข้าทำร้ายและจู่โจม เช้าวันถัดมาโคอิชิได้ฟื้นขึ้นจากเหตุการณ์การอาละวาดของสัตว์ลึกลับ เขาได้พบว่าตอนนี้เหล่าเจ้าหน้าที่ได้เสียชีวิตเป็นจำนวนมากพร้อมกับการจากไปของก็อตซิลล่า หลังจากการประกาศการพ่ายแพ้สงครามโลกครั้งที่ 2 ของญี่ปุ่นอย่างเป็นทางการ โคอิชิถูกปลดประจำการเขาเดินทางกลับมายังบ้านเกิดของตัวเองทำให้พบว่า บ้านของเขาตอนนี้เป็นจุดที่ถูกทิ้งระเบิดและมันได้เสียหายจนไม่เหลือร่องรอยเดิม เขาได้พบกับ โนริโกะ หญิงสาวที่รับหน้าที่ดูแลน้องวัยทารกของตัวเองเพียงคนเดียว หลังจากที่ทั้งคู่ได้พูดคุยกันจึงตกลงว่าจะอาศัยอยู่ร่วมกันตั้งแต่นั้นมา เวลาผ่านไป 1 ปี โคอิชิได้งานเป็นผู้เก็บทุ่นระเบิดทางทะเลในขณะที่ทุกวันกำลังดำเนินไปแบบปกติ โคอิชิก็ได้พบกับสัตว์ลึกลับอย่าง Godzilla อีกครั้ง เรื่องราวต่อจากนี้จะเป็นอย่างไรโคอิชิจะสามารถเอาชีวิตรอดอีกครั้งหนึ่งได้หรือไม่ ติดตามกันต่อในภาพยนตร์เต็มกันได้เลย
ในภาพยนตร์เรื่อง Godzilla Minus One (2023) เหมือนว่าตัวผู้กำกับจะสร้างบรรยากาศของหนังโดยการใส่เพลงเพื่อกระตุ้นอารมณ์ให้ผู้ชมเข้าใจถึงความกดดันและความสิ้นหวังของประชาชน ณ ขณะนั้น ต้องบอกเลยว่าสามารถถ่ายทอดออกมาได้ดี ทั้งเรื่องของการดำเนินเรื่อง ร้อยเรียงเรื่องราวและอันดับเรื่อง จัดว่าทำตามมาตรฐานได้อย่างสมบูรณ์แบบ ที่สำคัญตัวหนังยังสอดแทรกประวัติศาสตร์เข้าไปยิ่งเพิ่มให้หนังดูน่าสนใจและเรียลมากยิ่งขึ้น ส่วนตัวค่อนข้างชอบกราฟิกกราฟ CG ของเรื่องเป็นอย่างมาก โดยรวมเราจะขอให้คะแนนหนังเรื่องนี้อยู่ที่ 9/10