Bholaa (2023) โภลา

หนังเรื่อง Bholaa (2023) โภลา เป็นหนังอินเดียแนวแอ็กชัน ระทึกขวัญ ดราม่า อาชญากรรม อำนวยการสร้างโดย วิชาญ วีรุ เทวกาล, เอส. อาร์. ประภู, และ ชิบาชิช ซาร์การ์ เขียนบทโดย อามิล คียัน ข่าน กำกับภาพโดย อาซีม บาจาจ ตัดต่อภาพโดย ดาร์เมนดรา ชาร์มา กำกับการแสดงโดย วิชาญ วีรุ เดวกัน มาพร้อมกับนักแสดงนำของเรื่อง ได้แก่ วิชาญ วีรุ เทวกาล รับบทเป็น โภลา (อดีตนักโทษ), ตาบัสซัม ฟาติมา ฮาชมี รับบทเป็น ผู้กำกับการตำรวจ ผกก. ไดอานา โจเซฟ, ซานเจย์ มิชรา รับบทเป็น สารวัตร อังกาด ยาดาฟ, และท่านอื่น ๆ ที่พร้อมมอบความสนุกให้กับทุกท่าน
เป็นเรื่องราวของ โภลา นักโทษที่ถูกจำคุกเป็นเวลา 10 ปี และเขาเพิ่งได้รับการปล่อยตัวออกมาในวันนี้ ซึ่งเขาตั้งใจไปเยี่ยมโจติ ลูกสาวที่ไม่เคยพบหน้ามาก่อน เพราะเธอต้องอยู่ในสถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้ามาตลอด ระหว่างนั้นเขาขับรถผิดเส้นทางจึงทำให้เขาไปโผล่อยู่บริเวณงานเลี้ยงอำลานายตำรวจยศสูงท่านหนึ่ง จึงทำให้ที่งานมีแต่ตำรวจออกมาพบปะกัน แล้วเหตุการณ์ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้นคือ ผกก. ไดอานา โจเซฟ ได้เข้าไปจับหนึ่งในสมาชิกของแก๊งค้ายาเสพติดรายใหญ่ได้ โดยเธอสามารถยึดโคเคนที่มีมูลค่ามากถึง 1,000 ล้านรูปีได้ ผ่านไปสักพักหลังจากของกลางถูกตำรวจยึดไปแล้ว อาชูรู้เรื่องนี้เข้าเลยวนกลับมาทวงของคืน ด้วยการวางยาตำรวจทั้งหมดที่อยู่ในงานเลี้ยงอำลานายตำรวจยศสูงนั้น เพื่อแอบขโมยของกลับไปและยังขอร้องให้เจ้าหน้าที่ตำรวจบางคนแอบหยอดยา Rohypnol ขณะที่พวกเขาดื่มเครื่องดื่มกัน เมื่อยาออกฤทธิ์จะทำให้คนที่ได้รับยาเข้าไปเกิดอาการมึน จนนอนหมดสติหลับไปสักพักแต่ว่ามีตำรวจเพียงคนเดียวที่ไม่ได้ดื่มเครื่องดื่มผสมยาคือ ผกก. ไดอานา โจเซฟ ซึ่งอาชูไม่รู้เรื่องคิดว่าตำรวจทุกคนหลับหมดแล้ว จึงเริ่มสั่งพรรคพวกให้ลงมือค้นหาโคเคนที่ถูกยึดไปในงานเลี้ยง แต่กลับไม่พบเพราะ ผกก. ไดอานา โจเซฟ ได้นำไปซ่อนไว้อีกสถานที่หนึ่ง

ตัดภาพมาที่ ผกก. ไดอานา โจเซฟ ได้เข้าไปขอร้องโภลาให้ขับรถพาตำรวจทั้งหมดที่ถูกวางยาไปส่งโรงพยาบาล เพราะเธอกลัวว่าหากปล่อยไว้นานกว่านี้จะเกิดอันตรายกับชีวิตตำรวจทุกคนได้ และไม่นานอาชูก็ได้ออกประกาศตามล่า ผกก. ไดอานา โจเซฟโดยให้ค่าหัวที่สูงมาก ด้วยเหตุนี้ทำให้เหล่าอันธพาลทั้งเมืองต่างลุกขึ้นมาไล่ล่าตามหาเธอกันจนเต็มถนนไปหมด ระหว่างนั้นมีสารวัตร อังกาด ยาดาฟ ที่เพิ่งย้ายให้มาทำงานที่สถานนีตำรวจ เธอจึงสั่งให้ปิดล้อมสถานีตำรวจทั้งหมดเพื่อป้องกันอันตรายที่จะเกิดขึ้นภายหลัง และก็เป็นไปตามคาดคือ อาชูพร้อมพรรคพวกของเขาได้บุกมายังสถานีตำรวจที่ปิดล้อมไว้ แต่ว่า สารวัตร อังกาด ยาดาฟก็ซุ่มวางแผนกับกลุ่มนักศึกษา 4 คนที่อยู่ในห้องขัง จากนั้นพวกเขาจึงร่วมมือกันไล่ล่าตัวอาชูและพรรคพวก จนสามารถจับกุมตัวได้สำเร็จ แต่สารวัตร อังกาดรู้ว่าอาชูได้ฆ่าเชตันตายก็โกรธมาก ด้วยเหตุนี้ทำให้สารวัตรฆ่าอาชูในทันที ตัดภาพมาที่ ผกก. ไดอานา ก็ยังไม่สามารถพาตำรวจที่ถูกวางยาไปรักษาที่โรงพยาบาลได้ เธอจึงติดต่อทีมแพทย์เข้ามาช่วยนำพาเจ้าหน้าที่ไปรักษาตัวที่โรงพยาบาล ระหว่างที่รอเวลานั้น โภลาและผกก. ไดอานาได้เล่าเรื่องราวในอดีตให้กันฟัง หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่พยาบาลก็มาถึงและนำตัวทุกคนส่งไปยังโรงพยาบาล ส่วนเรื่องราวต่อจากนี้จะสนุก หรือบู๊มันส์ขนาดไหน ไปติดตามชมพร้อมกันได้เลย

หลังจากที่ได้ดูหนังเรื่องนี้ตั้งแต่ต้นจนจบแล้ว ขอสรุปว่าเป็นหนังแอ็กชัน ระทึกขวัญ ดราม่า อาชญากรรมที่ถ่ายทอดเรื่องราวของนักโทษคนหนึ่งที่เพิ่งถูกปล่อยตัวออกมาจากเรือนจำ เนื่องจากเขาอยู่ในนั้นมาเป็นเวลา 10 ปีแล้วจึงอยากไปพบหน้าลูกสาวของตัวเองที่ไม่เคยเลี้ยงดูตั้งแต่เกิด เธออยู่ในสถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้า แถมแม่ของเธอก็ถูกฆ่าจนเสียชีวิต คิดได้ดังนั้นเขาจึงเดินทางไปพบเธอทันที แต่ทว่าเขาดันขับผิดเส้นทางจึงไปโผล่อยู่ที่งานเลี้ยงอำลานายตำรวจยศสูง และหลังจากนั้นก็เหตุการณ์ชุลมุนขึ้นมาอย่างกะทันหัน เพราะมีตำรวจกลุ่มหนึ่งได้ซุ่มดักจับแก๊งค้ายาเสพติดอยู่ในขณะนั้น โดยสามารถยึดของกลางเป็นโคเคนที่มีมูลค่ามหาศาลได้ ผ่านไปสักพักหลังจากของกลางถูกตำรวจยึดไปแล้วสมาชิกของแก๊งอีกคนรู้เรื่องนี้ เข้าจึงคิดแผนการร้ายโดยขอร้องให้เจ้าหน้าที่ตำรวจในงานเลี้ยงบางคนหยอดยา Rohypnol ลงไปผสมกับเครื่องดื่ม เมื่อตำรวจได้รับยาเข้าไปจะทำให้เกิดอาการมึนจนหมดสติและหลับไป หลังจากนั้นแก๊งค้ายาเสพติดที่เหลือจึงเริ่มทำตามแผนการที่ได้วางไว้เพื่อทวงของกลางคืนนั่นเอง แต่ว่าไม่ได้ง่ายแบบนั้นเพราะมีตำรวจคนหนึ่งไม่ได้กินยาที่ผสมในเครื่องดื่มเข้าไป เลยทำให้สติสัมปชัญญะครบถ้วนและแก๊งค้ายาก็ไม่รู้เรื่องนี้ด้วย พวกเขาคิดว่าตำรวจทุกคนหลับกันหมดแล้ว จึงเริ่มลงมือค้นหาโคเคนที่ถูกยึดไปในงานเลี้ยง แต่กลับไม่พบเพราะของกลางได้ถูกนำไปซ่อนไว้อีกสถานที่หนึ่งเรียบร้อยแล้ว เหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้นในงานเลี้ยงอำลานายตำรวจยศสูงนี้ ส่งผลให้แผนการที่นักโทษวางไว้เพื่อจะไปพบหน้าลูกสาวถูกยกเลิกไป จนนำเขาเข้าไปสู่การก่ออาชญากรรมเพราะได้เข้ามาพัวพันกับตำรวจ และพวกเขาต้องการความช่วยเหลือ เรื่องวุ่นวายจึงตามมาภายหลัง เพียงเพราะแก๊งค้ายาเสพติดต้องการทวงโคเคนคืนจากตำรวจแค่นั้นเอง

สำหรับพล็อตเรื่องถือว่าใช้ได้ในระดับหนึ่ง จุดเด่นของหนังจะประกอบไปด้วย วิชาญ วีรุ เทวกาล เป็นคนที่จัดการทุกอย่างได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นด้านการแสดงที่ได้รับบทเป็นตัวละครหลัก และด้านการกำกับหนังก็ทำได้ยอดเยี่ยมมาก เมื่อนำทั้งสองสิ่งมารวมกันจึงช่วยยกระดับคุณภาพของหนังให้สมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังทำให้คนที่เป็นคอหนังแอ็กชัน-อาชญากรรมหนัก ดูแล้วรู้สึกคุ้มค่ามาก ส่วนบรรยากาศภายในเรื่องก็ดูสมจริงมาก อย่างไรก็ตามในด้านเทคนิคการสร้างงานภาพทำออกมาได้ยอดเยี่ยมมาก ทุก ๆ ฉากดูสวยงามแถมยังเป็นภาพ 3 มิติ และที่น่าทึ่งคือ คาแร็กเตอร์ของ วิชาญ วีรุ เทวกาล ซึ่งรับบทเป็น โภลา เขาได้รับบาดเจ็บอย่างสาหัส แต่กลับไม่รู้สึกเจ็บปวดเลยเพราะเขานำขี้เถ้าศักดิ์สิทธิ์มาทาบนหน้าผากแค่นั้นเอง เขาจึงรู้สึกเหมือนกับว่าอยู่ยงคงกระพันอีกครั้ง ไม่แก่ขึ้นกลายเป็นตำนานสมดั่งใจ ที่สำคัญคือมีการนำดาบตรีศูลของพระศิวะมาใช้ในการต่อสู้ด้วย ส่วนภาษาจะใช้ภาษาถิ่นคือ ฮินดีในการพากย์ทั้งเรื่อง จุดนี้ทำให้มีความแตกต่างจากเรื่องอื่น นอกจากนี้การฆ่ากลุ่มคนร้ายได้ใช้จังหวะการเต้นรำ ตรงกับหมายเลขไอเท็มที่เล่นอยู่เบื้องหลังซึ่งจุดนี้สะท้อนให้คนดูเห็นถึงการผสมผสานระหว่างความรุนแรงที่เกิดขึ้น กับการเต้นรำให้เข้ามาประสานกันได้อย่างลงตัว และยังช่วยสร้างบรรยากาศภายในหนังให้บ้าระห่ำ โดยที่ไม่อาจคาดเดาได้จนน่าติดตาม แถมชวนให้คนดูติดอยู่ในภวังค์หนังอีกด้วย ถือเป็นหนังคุณภาพอีกเรื่องที่ผู้กำกับท่านอื่นควรเอาเป็นแบบอย่างในการสร้างฉากแอ็กชัน ขณะเดียวกันจุดด้อยของหนังจะอยู่ตรงที่การเล่าเรื่องจะใช้เวลาสั้น ๆ แต่เน้นอัดฉากแอ็กชันหนักมาก ถัดมาเรื่องการสนทนาระหว่างตัวละครหลักกับผู้ร้ายมีคำพูดไม่ดีเยอะและบทบาทของ ตาบัสซัม ฟาติมา ฮาชมี มีน้อยเกินไป เหมือนแสดงเป็นนักแสดงสมทบมากกว่า ถ้าแก้ไขจุดเหล่านี้ได้รับรองว่าภาพรวมของหนังจะดูมีความลงตัวเพิ่มขึ้นในทุก ๆ ด้าน สุดท้ายนี้งานด้านเทคนิคแสงมีความลงตัว สีมีความสวยงามมาก ฉากแอ็กชันยอดเยี่ยมที่สุด บรรยากาศสมจริงมาก และองค์ประกอบอื่น ๆ โดยรวมของหนังถือว่าไม่ได้แย่จนเกินไป ดังนั้นคะแนนภาพรวมทั้งหมดเราให้อยู่ที่ 8.5 เต็ม 10 คะแนน