Arctic Blast (2010) มหาวินาศปฐพีขั้วโลก

ภาพยนตร์แนววิทยาศาสตร์ / ระทึกขวัญ เรื่อง Arctic Blast (2010) มหาวินาศปฐพีขั้วโลก กำกับการแสดงโดย Brian Trenchard-Smith นักแสดงนำ Michael Shanks ที่รับบทเป็น Jack Tate, Alexandra Davies ที่รับบทเป็น Emma Tate, และ Indiana Evans ในบท Naomi Tate

เรื่องราวเริ่มต้นที่ แจ็ค นักวิทยาศาสตร์ด้านภูมิอากาศที่ตระหนักถึงความรุนแรงของภัยพิบัติ ซึ่งเขาได้รับรู้ถึงภัยธรรมชาติที่อาจเกิดขึ้นเร็ว ๆ นี้ เนื่องจากโอโซนขั้วโลกเหนือของโลกถูกทำลายอย่างหนัก แจ็คจึงต้องการพยายามหยุดยั้งเหตุการณ์นี้ก่อนที่จะสายเกิดไป โดยเขาได้รับความช่วยเหลือจาก เอ็มม่า ภรรยาและเพื่อน ๆ ในทีม ซึ่งแจ็คพยายามคิดหาวิธีในการซ่อมแซมชั้นโอโซนพร้อมกับหยุดยั้งคลื่นลมเย็นที่ทำลายล้างและกำลังจะเคลื่อนตัวเข้าหาแผ่นดินใหญ่ของออสเตรเลียต่อไปยังทั่วโลก แต่เป้าหมายของการเดินทางในครั้งนี้อีกส่วนหนึ่งที่นอกจากช่วยโลกแล้วเขาต้องการที่จะรักษาชีวิตครอบครัวของเขาด้วยเช่นกัน แจ็คพยายามทำงานร่วมกับนักวิทยาศาสตร์คนอื่น ๆ ที่อยู่ในแต่ละท้องถิ่นเพื่อรับข้อมูลเพื่อเติม และระดับทรัพยากรที่มีอยู่เพื่อให้เป้าหมายของเขาได้สำเร็จ แต่เหมือนว่าสถานการณ์กลับยิ่งทวีคูณความรุนแรงเพิ่มมากขึ้นพร้อมกับเวลาที่กระชั้นชิดมากกว่าเดิม แจ็กและทีมเริ่มกลับมาพูดคุยกันครั้งใหญ่ เพราะเหมือนว่าแต่ละคนจะมีความคิดและความเชื่อของตัวเองที่ไม่ตรงกัน แต่สิ่งเดียวที่จะทำให้ภารกิจนี้ลุล่วงคือ การร่วมมือกันเท่านั้น แจ็คและทีมต้องต่อสู้กับความหนาวเหน็บในขณะที่พวกเขาเดินทางไปยังขั้วโลก ทำให้ระหว่างทางพวกเขาต้องสูญเสียเพื่อนไปบางส่วน เรื่องราวของแจ็คและทีมของเขาจะจบลงอย่างไร ภารกิจในการปกป้องโลกจะสำเร็จหรือไม่ ติดตามและให้กำลังใจพวกเขาได้ในภาพยนตร์เต็มกันเลย

Arctic Blast (2010) หนังเชิงวิทยาศาสตร์ที่ถือว่าทำให้คนดูได้ลุ้นตามมาก ๆ เลย อาจด้วยตัวหนังหยิบยกประเด็นที่เกิดขึ้นในปัจจุบันมาเล่าเพิ่มเติม อีกทั้งด้านการแสดงก็สามารถสร้างมิติและบทที่เล่าออกมาได้อย่างชัดเจนและต่อเนื่อง ทำให้ในฐานะคนดูค่อนข้างอินไปกับตัวละครเอามาก ๆ ยิ่งการนำเสนอของตัวละครของแจ็คเรียกว่าสร้างอิมแพคได้ไม่น้อยเลย แต่ในหลาย ๆ ฉากอาจยังขาดเทคนิคการถ่ายที่พิเศษทำให้ดูลอย ๆ และยังไม่ได้สมจริงมากเท่าไรหนัก ภาพรวมก็เป็นหนังที่มีทั้งจุดเด่นและจุดด้อยที่ปะปนกันไป แต่ส่วนตัวในแง่ของวิทยาศาสตร์ถือว่าทางคนเขียนบทสามารถเล่า และถ่ายทอดออกมาได้ดีเลยทีเดียว โดยเราจะขอให้คะแนนหนังเรื่องนี้อยู่ที่ 8/10