Akira and Akira (2022) อากิระกับอากิระ

Akira and Akira (2022) อากิระกับอากิระ ภาพยนตร์แนวดราม่า เชื้อสายญี่ปุ่น เรื่องราวของคนสองคนที่แม้ว่าจะชื่อเหมือนกัน แต่ทั้งสองคนมีภูมิหลังที่ต่างกันสุดขั้ว ทั้งคู่จะก้าวข้ามความต่างและช่วยกันกอบกู้บริษัทที่กำลังจะล้มละลายได้ไหม นำแสดงโดย เรียวมะ ทาเคอุ, ริวเซย์ โยโกฮามะ, ไคโตะ ทาคาฮาชิ, โมกะ คามิชิราอิชิ, คาซึยะ โคจิมะ, และ ชินโนะสุเกะ มิตสึชิมะ ฝีมือการกำกับของ ทากาชิโร่ มิกิ
เรื่องราวของชายสองคน โดยคนหนึ่งชื่อ “อากิระ ยามาซากิ” กับ “อากิระ ไคโด” ทั้งสองคนเป็นพนักงานธนาคารของ Industrial Central Bank ทั้งคู่มีความสามารถ และมีการทำงานที่โดดเด่น ที่สำคัญพวกเขาเป็นคู่แข่งที่น่ากลัวของกันและกันอีกด้วย แม้ดูเหมือนทั้งสองคนจะมีอะไรที่เหมือนกัน แต่ความจริงแล้วต่างมีภูมิหลังที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง เริ่มต้นที่ “อากิระ ยามาซากิ” ยังเป็นเด็ก โรงงานของพ่อเขายังมาล้มละลาย และครอบครัวดันมาหนีไปกลางดึก ด้วยประสบการณ์ดังกล่าวอากิระ ยามาซากิจึงอยากทำงานเป็นนายธนาคารเพื่อช่วยเหลือผู้คน ในทางกลับกัน “อากิระ ไคโด” ชายหนุ่มที่เกิดมาในครอบครัวที่เป็นเจ้าของบริษัทขนาดใหญ่ แต่เลือกที่มาเป็นนายธนาคารเพียงเพราะไม่อยากเป็นคนสานต่อธุรกิจที่บ้าน ด้วยฐานะและภูมิหลังที่ต่างกันทำให้ทั้งคู่มีความตั้งใจแตกต่างกัน ต่อมาอากิระ ยามาซากิก็ได้รับมอบหมายงานหนึ่งจากเจ้านาย และสามาถทำได้สำเร็จรวมถึงได้เลื่อนขั้น ซึ่ง อากิระ ไคโดะแม้จะยังไม่ได้เลื่อนตำแหน่ง แต่ยังคงทำงานอย่างตั้งใจ และแน่นอนว่ายังมีอนาคตที่ดีรออยู่ แต่บริษัทของครอบครัวเขาจวนจะล้มละลาย เนื่องจากรูปแบบการบริหารจัดการที่เน้นครอบครัวเป็นหลัก พนักงานที่นั่นและครอบครัวต่างก็ตกอยู่ในสถานการณ์วิกฤติ มาถึงตรงนี้อากิระ ไคโดะเขาจะแก้ไขอย่างไรกับวิกฤตินี้ เรื่องราวจะสนุกแค่ไหน และปัญหาที่เกิดขึ้นจะได้รับการแก้ไขอย่างไร คุณต้องติดตามชมกัน
หนังญี่ปุ่นที่ได้นำเรื่องราวของคนสองคน ที่มีความแตกต่างกันมาทำเป็นหนัง ซึ่งสามารถถ่ายทอดเรื่องราวออกมาได้น่าสนใจ มีความสนุกตั้งแต่ต้นเรื่อง จังหวะในการเล่าเรื่องที่เล่าไปเรื่อย ๆ แต่ไม่น่าเบื่อ บทเขียนมาดีและละเอียดมาก ๆ ได้พาคนดูไปทำความรู้จักตัวละครสำคัญ แต่ไม่ยืดจนเกินไป ละครทุกตัวและได้เห็นพัฒนาการตัวละครอย่างชัดเจน บทเขียนมาเชื่อมโยงกันแบบสมเหตุสมผล ดูเพลินมาก ๆ ด้านการแสดงดูเป็นธรรมชาติ สามารถส่งอารมณ์ทำให้คนดูอินไปด้วย สุดท้ายคือด้านงานภาพและการโปรดักชั่น สามารถออกแบบมาได้เป็นธรรมชาติและสมจริง ซึ่งเหมาะสมกับช่วงเวลาของแต่ละฉาก โดยรวมแล้วเป็นหนังแนวธุรกิจอีกที่สามารถเก็บรายละเอียดได้ครบถ้วนและอยากแนะนำให้หาชม ชมเพื่อความสนุก เพื่อเป็นแรงบรรดาลใจ สำหรับภาพรวมให้คะแนนอยู่ที่ 9.0 / 10