Air แอร์ แผนล่าลายเซ็นยอดตำนาน (2023)

หนังเรื่อง Air แอร์ แผนล่าลายเซ็นยอดตำนาน (2023) หนังฝรั่ง แนวดราม่า กีฬา อำนวยการสร้างโดย เบนจามิน เกซา แอฟเฟล็ก, เดวิด เอลลิสัน, และ จอน เวนบัค เขียนบทโดย อเล็กซ์ คอนเวอรี กำกับภาพโดย โรเบิร์ต บริดจ์ ริชาร์ดสัน ตัดต่อภาพโดย วิลเลียม โกลเดนเบิร์ก กำกับการแสดงโดย เบนจามิน เกซา แอฟเฟล็ก มาพร้อมกับนักแสดงนำของเรื่อง ได้แก่ แมตต์ เดมอน รับบทเป็น ซันนี วัคคาโร (แมวมองนักบาสเกตบอลประจำแผนกรองเท้า), เบนจามิน เกซา แอฟเฟล็ก รับบทเป็น ฟิล ไนต์ (ประธานบริษัท), เจสัน เคนต์ เบตแมน รับบทเป็น ร็อบ สตราสเซอร์ (รองประธานฝ่ายการตลาด), และท่านอื่น ๆ อีกเพียบ

เป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นจริงในปี 1984 บริษัท Nike หรือบริษัทผลิตเครื่องกีฬาและอุปกรณ์กีฬา ที่ตั้งอยู่ในรัฐออริกอนในสหรัฐอเมริกา ที่มีแผนจะปิดแผนกรองเท้าบาสเกตบอลเพราะแผนกนี้ทำรายได้ต่ำมาก รองประธานฝ่ายการตลาด (ร็อบ สตราสเซอร์) กับประธานกรรมการบริหารของบริษัท (ฟิล ไนต์) จึงมอบ
หมายให้ซันนี วัคคาโร ทำการหาโฆษกคนใหม่ เพื่อมากระตุ้นยอดขายของแผนกให้ดีขึ้น ในขณะที่ไมเคิล จอร์แดน เป็นหนึ่งคนที่ได้รับการคัดเลือก แต่ว่าทางซันนี วัคคานั้นไม่ค่อยเห็นด้วยเท่าไหร่ เนื่องจากไมเคิลเป็นแฟนพันธุ์แท้ของบริษัทคู่แข่งรวมถึงมีค่าตัวที่สูงมาก แต่เมื่อกลับมานั่งดูไฮไลท์ของไมเคิล จอร์แดนที่ทำให้กับอาเทอร์ แอช ก็เกิดความประทับใจและเชื่อมั่นในตัวไมเคิลเพิ่มขึ้น

หลังจากนั้นเขาจึงนัดจอร์จ เรเวลิง ซึ่งเป็นเพื่อนและโค้ชของไมเคิล จอร์แดน ไปทานอาหารเย็นด้วยกัน พร้อมกับขอให้จอร์จสนับสนุนโฆษกคนใหม่ หลังจากทานข้าวเสร็จ เขาได้ออกเดินทางไปยังเมืองวิลมิงตัน ที่อยู่ในรัฐนอร์ทแคโรไลนา เพื่อบอกแม่ของไมเคิล จอร์แดนว่าบริษัทของตนจะให้การสนับสนุน ไมเคิลอย่างเต็มที่ รวมถึงทางบริษัทจะให้ทุกอย่างตามที่ต้องการ ซึ่งเขาอาจจะไม่ได้รับจากแบรนด์อื่นก็เป็นได้ และไม่นานซันนี วัคคาโร ก็ได้รับสายโทรศัพท์จากตัวแทนของ ไมเคิล จอร์แดน ซึ่งปลายสายได้มาบอกว่า ไมเคิล ต้องการให้จัดการประชุมใหญ่ในวันจันทร์หน้า ที่เมืองบีเวอร์ตัน รัฐออริกอน หลังจากวางสายเขาและร็อบได้เริ่มเตรียมข้อเสนอในการขาย พร้อมทั้งบอกให้นักออกแบบรองเท้าเตรียมแบรนด์รองเท้าไว้ โดยได้ตั้งชื่อเป็น “Air Jordan” ตามชื่อเทคโนโลยี Air Sole ของบริษัท จากการประชุมจบลง ฟิล ไนต์ ได้ตกลงจ้างไมเคิล จอร์แดน ในราคา 250,000 ดอลลาร์ และเรื่องราวต่อจากเป็นอย่างไร
เชิญทุกคนติดตามไปพร้อมกันที่นี่ได้เลย

หลังจากที่ดูตั้งแต่ต้นจนจบแล้ว ขอสรุปว่าเป็นหนังดราม่ากีฬา ที่ถ่ายทอดเรื่องจริงของบริษัท Nike ซึ่งเนื้อหาภายในเรื่องจะเกี่ยวกับการสร้างแบรนด์รองเท้าและค้นหาโฆษกคนใหม่ให้เข้ามาร่วมงานกับบริษัท เพื่อกระตุ้นยอดขายที่ตกให้กลับมาฟื้นตัวอีกครั้ง นอกจากนี้ยังมีการสอดแทรกกลยุทธ์ในการขาย, ข้อเสนอต่าง ๆ รวมทั้งการบริหารแบรนด์ร้องเท้าตังแต่เริ่มต้นสร้าง อาจจะมีอุปสรรคมากมายเข้ามาทดสอบ แต่ท้ายที่สุดก็ได้รับการยอมรับจากผู้คนทั่วโลก สำหรับพล็อตเรื่องถือว่าทำออกมาได้ดี จุดเด่นของหนังคือ การดำเนินเรื่องที่กระชับ ตรงประเด็น แถมยังถ่ายทอดเรื่องราวได้สนุก นอกจากนี้ตัวละครหลักทุกคนแสดงได้สมบทบาทมาก รวมถึงถ่ายทอดอารมณ์ ความรู้สึกต่าง ๆ ส่งถึงคนดูได้ดี ด้านงานภาพก็ทำออกมาดีเช่นกัน การแต่งกายจะออกแนวย้อนยุค 80 โดยมีกลิ่นอายความคลาสสิกตลอดทั้งเรื่อง ที่สำคัญบรรยากาศในเรื่องสมจริง เพราะใช้สถานที่จริงในการถ่ายทำ จุดนี้จึงช่วยส่งเสริมให้หนังออกมาดูสมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ทางทีมมีการวางแผนอย่างเป็นระบบ เป็นทีมเวิร์ค ในทางกลับกันจุดด้อยของหนังคือ มีฉากดราม่าเยอะ คนดูอาจจะไม่ค่อยชอบเท่าไร ส่วนเทคนิคแสงกับฉากมีความคลาสสิกลงตัว สีมีความสวยงาม บรรยากาศสมจริง ดนตรีประกอบคลาสสิกไพเราะรวมถึงองค์ประกอบอื่น ๆ โดยรวมของหนังถือว่าดีในระดับหนึ่ง ดังนั้นคะแนนภาพรวมทั้งหมดเราให้อยู่ที่ 8 เต็ม 10 คะแนน