Afwaah (2023) ข่าวลือ

หนังเรื่อง Afwaah (2023) ข่าวลือ เป็นหนังอินเดียแนวระทึกขวัญ ลึกลับ ดราม่า อำนวยการสร้างโดย อานุภาพ ซินฮา เขียนบทโดย ซูเดียร์ มิชรา, นิซาร์ก เมห์ตา, และ ศิวะ บาจปายี กำกับภาพโดย เมาริซิโอ ไวดาล ตัดต่อภาพโดย อาตานุ มูเคอร์จี เป็นผลงานกำกับของ ซูเดียร์ มิชรา มาพร้อมกับนักแสดงนำมากมาย ได้แก่ นาวาซุดดิน ซิดดิกี รับบทเป็น ราฮับ อาเหม็ด, ภูมิ เปทเนการ์ รับบทเป็น นิเวดิตา ซิงห์ (คู่หมั้น วิครัม ซิงห์), สุมีต วยาส รับบทเป็น วิครัม ซิงห์ (นักการเมืองและคู่หมั้น นิเวดิตา ซิงห์), ชารีฟ ฮัชมี รับบทเป็น แชนแดน ซิงห์, และ สุมิต เคาล์ รับบทเป็น ซานดีฟ โทมาร์ (สารวัตร)

เป็นเรื่องราวของ วิครัม ซิงห์ เขาเป็นนักการเมืองที่มีหัวรุนแรงมาก และวิครัมได้หมั้นหมายกับนิเวดิตา ซิงห์ ไม่นานก็ได้เกิดเหตุการณ์ระทึกขวัญขึ้น เมื่อประชาชนมุสลิม กับนักการเมืองโจมตีต่อสู้กันอย่างดุเดือด วันต่อมาเรื่องนี้เป็นข่าวลือแพร่ไปถึงหูคู่หมั้นของเขา ทำให้ทั้งคู่ทะเลาะกันอย่างแรง จนเธอแอบหลบหนีออกไปจากบ้าน และได้ขียนจดมายทิ้งไว้ให้อ่านว่า เธอไม่อยากเกี่ยวข้องกับการเมืองและเขาอีกต่อไป จากนั้นเธอก็ได้พบกับ ราฮับ อาเหม็ด เขาเป็นคนที่ต้องการช่วยเหลือเธอให้หลุดพ้นจากสถานการณ์เลวร้ายนี้ไปให้ได้ และนี่คือจุดเริ่มต้นของเรื่องราวทั้งหมดที่จะเกิดขึ้นต่อจากนี้ ส่วนใครอยากรู้ว่า ราฮับ อาเหม็ด กับ นิเวดิตา ซิงห์ จะเผชิญกับเหตุการณ์อะไรอีกบ้าง และข่าวลือนั้นเป็นเรื่องจริงหรือไม่ เชิญทุกคนมาลุ้นเพื่อติดตามความสนุกต่อที่นี่ได้เลย

หลังจากที่ได้ดูหนังเรื่องนี้ตั้งแต่ต้นจนจบแล้ว ขอสรุปว่าหนังเรื่องนี้เป็นหนังระทึกขวัญ ลึกลับ ดราม่าที่มีเรื่องราวสะท้อนให้คนดูเห็นเกี่ยวกับเรื่องจริงของการเมืองในยุคปัจจุบันว่า มีทั้งทุจริต คดโกงประชาชน แถมยังเกิดการแตกแยกในกลุ่มการเมืองอีกด้วย นอกจากนี้หนังก็เป็นจุดเริ่มต้นให้คนดูได้เข้ามาวิจารณ์ชีวิตนักการเมืองในสังคมได้แบบไม่ผิดอีกด้วย เพราะมีความคล้ายกันในทุกประเทศ สำหรับทางด้านพล็อตเรื่องทำออกมาได้ดีมาก มีการเดินเรื่องที่กระชับมีการถ่ายทำโดยใช้สถานที่จริง และเหตุการณ์จริงผสมผสานกัน จึงช่วยทำให้หนังดูสมจริงมากยิ่งขึ้น ส่วนการเลือกใช้โทนสี หรือจัดมุมแสงภายในฉากก็ช่วยให้คนดูอินไปกับเรื่องราวในหนังอย่างง่ายดาย แถมตัวละครที่มีชื่อว่า สุมีต วยาส และ ภูมิ เปทเนการ์ ก็แสดงได้สมบทบาท รวมถึงถ่ายทอดอารมณ์ต่าง ๆ ออกมาผ่านทางแววตา หรือสีหน้าได้ชัดเจนมาก แต่ข้อด้อยของหนังมีเพียงข้อเดียวคือ คนดูดูแล้วอาจจะเครียดไปบ้าง เพราะมีฉากการเมืองเยอะเท่านั้น สุดท้ายคือ เทคนิคต่าง ๆ ภายในหนัง ไม่ว่าจะเป็นแสง สี ฉาก ดนตรีประกอบ บรรยากาศ และองค์ประกอบอื่น ๆ โดยรวมของหนังดีมาก ดังนั้นคะแนนภาพรวมทั้งหมดเราให้ 10 คะแนนเต็ม