The Djinn’s Curse (2023) ของแขก

ภาพยนตร์แนวสยองขวัญ จากประเทศไทย เรื่อง The Djinn’s Curse (2023) ของแขก กำกับการแสดงโดย เกรียงไกร มณวิจิต นำแสดงโดย อัครา ลูคัส, อัญรินทร์ ธีราธนันพัฒน์, อนีมา พินิจ ครอบครัวหนึ่งที่ต้องอพยพไปอยู่ 3 จังหวัดชายแดน ด้วยหน้าที่การงานของพวกเขา แต่แล้วเหมือนว่าการย้ายบ้านครั้งนี้ ทำให้พวกเขาต้องเข้าไปพัวพันกับเรื่องราวไสยศาสตร์ลึกลับจนถึงกับชีวิต ที่มันจะเปลี่ยนชีวิตของพวกเขาไปตลอดกาล
เรื่องราวเริ่มต้นที่ วิน, จอย, มีนา, และหลิน ทั้ง 4 ได้เดินทางมายังบ้านหลังหนึ่ง ซึ่งตัวของวินได้ถูกเรียกตัวให้มาทำงานยัง 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้อีกครั้ง ทำให้วันนี้ทั้งครอบครัวได้ย้ายเข้ามายังบ้านหลังใหม่ พวกเขาได้ถูกพามาโดย ชาติ เพื่อนร่วมงานใหม่ของเขานั้นเอง ลูก ๆ ทั้งสองได้เดินไปสำรวจยังห้องใต้ดินที่มีข้าวของอยู่มาก ในขณะที่ทั้งคู่กำลังเล่นและสำรวจอยู่นั้นพวกเธอได้พบกับอะไรบางอย่างที่ไม่รู้ว่าเป็นอะไร แต่มันถูกซ่อนเอาไว้โดยมีลักษณะคล้ายกับเครื่องรางของขลัง ภาพตัดมาที่ชาติและวินขณะที่ทั้งคู่กำลังเดินนั่งมอเตอร์ไซค์ พวกเขาได้เห็นชาวบ้านกำลังนำศพที่ห่อหุ้มด้วยผ้าขาวก่อนจะวางในหลุมศ ขณะที่ทั้งสองกำลังมองศพอยู่นั้นศพกลับขยับจนทำให้ทั้งคู่ผงาดด้วยความตกใจ ภาพตัดมาที่ผู้หญิงคนนึงกล่อนมีอาการคล้ายกับถูกผีเข้า พูดจาไม่รู้เรื่อง ซึ่งตอนนั้นมีหมอผีสาวขาวอย่างแบแว กำลังนั่งทำพิธีอยู่ โดยเขานั้นมากับลูกชายที่มีชื่อว่ามะดิ่งที่เป็นลูกมืออยู่ข้าง ๆ ส่วนตัวของแบแวต้องการให้ลูกชายของเขาสืบต่อสายอาชีพนี้เผื่อวันนึงเขาไม่อยู่ลูกชายของเขาจะสามารถรับช่วงต่อได้นั้นเอง ผิดกับมะดิ่งที่ไม่สนใจที่จะสืบสานอาชีพนี้สักเท่าไร เมื่อแบเวทำพิธีเสร็จชาติได้แนะนำวินให้รู้จักพร้อมกับแนะนำว่าตนเองกำลังจะกลับมาทำงานอยู่ที่นี่อีกครั้ง ภาพตัดไปในช่วงกลางดึกวินกลับมายังบ้านด้วยอาการเมาอย่างมาก จนจอยได้บ่นพร้อมกับต่อว่าเขาถึงเรื่องที่ทำให้ครอบครัวต้องย้ายมาอยู่ที่นี่ แถมเธอเองก็ไม่เชื่อด้วยที่วินบอกว่า เขานั้นต้องทำงานและสังสรรค์กับเพื่อนจนดึก เพราะตัวของจอยได้โทรไปสอบถามชาติทำให้ได้รู้ว่าวินนั้นเลิกงานตั้งแต่ 5 โมงเย็น ขณะที่ทั้งสองกำลังโต้เถียงกันอยู่นั้น ลูกของพวกเขาได้เดินออกมาทำให้เหตุการณ์ทั้งหมดต้องจบลง เช้าวันต่อมา จู่ ๆ ได้มีหญิงปริศนามายังบ้านของพวกเขา โดยเธอแนะนำว่าตัวเองนั้นชื่อ นัสสุรีย์ ต่อมาทั้งคู่คุยเรื่องขนมด้วยกันนิดหน่อยก่อนที่นัสสุรีย์จะบอกว่า ตัวเธอและจอยน่าจะเข้ากันได้ดี เพราะว่าทั้งคู่ดูจะชอบอะไรเหมือน ๆ กัน แม้ว่าจอยจะรู้สึกแปลกกับประโยคนั้นแต่ก็ปล่อยเลยตามเลยไป โดยที่ไม่รู้ว่านี้จะกลายเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้ครอบครัวของเธอพบกับความน่ากลัวแบบที่ไม่เคยคิดมาก่อน เรื่องราวจะเป็นอย่างไรต่อไป ติดตามกันต่อในหนังเต็มได้เลย
บรรยากาศโดยรวมของหนังเรื่องนี้จะได้กลิ่นอายของความเป็นมาลายูอย่างมาก ด้วยตัวผู้กำกับเป็นคนนราธิวาสจึงได้กลิ่นอายและนำเสนอวัฒนธรรม ความเชื่อ ได้แบบเข้าถึงมาก ๆ เลยทีเดียว หรือแม้แต่พิธีกรรมต่าง ๆ ยังถูกถ่ายทอดออกมาได้อย่างดี บอกเลยว่าเป็นหนังผีที่น่ากลัวอีกเรื่องของไทยเลยก็ว่าได้ แต่ตัวหนังยังถือว่ามีองค์ประกอบอื่น ๆ อีกมาก ที่ทำให้หนังดูไม่สมจริง การตัดสินใจของตัวละคร ทิศทางบางช่วงของหนังก็ดูจะเล่าได้ค่อนข้างน่าเบื่อไปหน่อย แต่หากโฟกัสด้านความน่ากลัวขอยกให้หนังเรื่องนี้อยู่ด้วยคะแนนเต็มเลยล่ะ แต่หากพูดถึงองค์ประกอบภาพรวมของหนัง อยากให้ใส่ความเข้มข้นของบทมากกว่านี้ ซึ่งเราจะให้คะแนนหนังเรื่องนี้อยู่ที่ 8/10